เทคนิคเพิ่มโอกาสสอบติด กสพท. ด้วยสถิติทางด้านตัวเลข

บทความ-เทคนิคเพิ่มโอกาสสอบติด-กสพท

ความโดดเด่นของการสอบ กสพท. จุดหนึ่งที่มีผลต่อการสอบติด หรือ ไม่ติด ของน้องทุกคน คือ การที่เราจะต้องเลือก 4 อันดับ ของคณะ/สถาบัน ตั้งแต่ขั้นตอนการสมัคร โดยส่วนมากน้องๆก็จะใช้สูตร   ในการจัดอันดับ เช่น 2 อันดับแรกเอาคณะ/สถาบัน ที่อยากเข้า ส่วนอันดับ 3-4 เลือกแบบกันเหนียวเอาไว้
นี่ถือเป็นวิธีการทั่วไปที่ดี แต่พี่จะมาแนะนำขั้นตอนที่ช่วยให้การเลือก 4 อันดับในการสอบ กสพท. ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสสอบติดให้กับตัวเราได้ไม่มากก็น้อยเลยแหละค่ะ และนั่นก็คือการนำสถิติเก่าที่เกิดขึ้นมาคาดการณ์ และคำนวณความเป็นไปได้ที่เหมาะสมกับตัวเอง
เทคนิคเพิ่มโอกาสสอบติด กสพท. มี 3 ขั้นตอน
1. สถิติคะแนนเก่าของแต่ละ คณะ/สถาบัน … ซึ่งแน่นอนว่าให้ดูคะแนนต่ำสุด เพราะนั่นคือ เกณฑ์ที่ผ่านเข้าสู่รอบสัมภาษณ์ ถ้าหากขยันก็รวบรวมข้อมูลทั้งหมด แต่ถ้ามองว่าไม่จำเป็นก็หยิบเฉพาะคณะที่สนใจมาประมาณ 8 คณะ ยกตัวอย่างความสนใจของ นาย เมาคลี ที่จะสอบ กสพท. 60 มาดูกัน

คณะ/สถาบัน คะแนนต่ำสุด ปี 59
คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 69.3922
คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล 67.375
คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล 65.9556
คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 65.2483
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 63.8756
คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาลมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช 64.2825
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 63.3253
คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล 62.5024

ลิสต์รายชื่อคณะ/สถาบัน และ คะแนนต่ำสุดของ นาย เมาคลี ก็จะมีลักษณะดังตัวอย่างด้านบน แต่แนวโน้มคะแนนในแต่ละปีย่อมไม่เท่ากัน ดังนั้นเราต้องหาช่วงคะแนนเพื่อใช้ประกอบการวิเคราะห์นี้ ทำยังไงต่อ ไปดูขั้นตอนที่ 2 กันเลย
2. คาดการณ์คะแนนจากลิสต์รายชื่อคณะ/สถาบันซึ่งน้องต้องวิเคราะห์ตามแนวโน้มเช่น ปี 59 คะแนนลดลงมาจากปี 58 พอสมควร ดังนั้นปี 60 จึงมีโอกาสที่คะแนนอาจจะเพิ่มและเป็นการ คิดแบบไม่ประมาทอีกด้วย (วางเป้าให้สูงไว้ก่อนมีแต่ได้กับได้)
มาดูตัวอย่าง นาย เมาคลี เลยกำหนดคะแนนด้วยสถิติ +3 % เพื่อประมาณช่วงคะแนนปี 60 หลังจากใช้เวลาคำนวณ นายเมาคลี ก็จะได้คะแนนเป้าหมายสำหรับการสอบ กสพท.ปี 60 นั่นเอง

คณะ/สถาบัน คะแนนต่ำสุด ปี 59  คาดการณ์คะแนน ปี 60 
คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 69.3922 71.474
คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล 67.375 69.3962
คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล 65.9556 67.9342
คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 65.2483 66.5337
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 63.8756 65.7918
คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาลมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช 64.2825 66.2109
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 63.3253 65.225
คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล 62.5024 64.3775

(แต่ก็ใช่ว่าจะออกมาเป๊ะนะคะ เพราะนี่คือการคาดคะเนเพื่อวางแผนเท่านั้น)

3. ตั้งค่าคะแนนที่คาดหวังในแต่ละส่วน … คือ ลองประเมินตัวเองว่า ในการสอบแต่ละส่วน เราจะทำคะแนนได้เท่าไหร่ (อาจสมมติตามความมั่นใจ หรือ คะแนนจากการทำแบบฝึกหัดเก่า เป็นต้น)

สมมติว่า นายเมาคลี ลองทำโจทย์ ความถนัดแพทย์ และออกมาได้คะแนนตามตารางด้านล่างนี้

คะแนนความถนัดแพทย์ ของนายเมาคลี สัดส่วน เข้าสูตร คะแนนตามสัดส่วน
187 จากเต็ม 300 30% 187 × 30 / 300 18.7

ในส่วนความถนัดแพทย์ นายเมาคลี เก็บคะแนนเข้ากระเป๋าไปได้ 18.7 ซึ่งไม่มากไม่น้อย ทีนี้มาดูคะแนน 7 วิชาสามัญของนายเมาคลี ซึ่งมั่นใจว่าตนเองเก่งวิชาภาษาไทย เคมี และ ชีววิทยา แต่ไม่เก่งสังคมศึกษา โดยหลังการทำแบบฝึกหัดก็ได้คะแนนออกมาตามนี้

วิชา คะแนนสอบ ของ นายเมาคลี สัดส่วน คะแนนรายวิชาตามสัดส่วน
ภาษาไทย 80 7% 5.6
สังคมศึกษา 50 7% 3.5
ภาษาอังกฤษ 60 14% 8.4
คณิตศาสตร์ 1 70 14% 9.8
ฟิสิกส์ 70 รวม 28 % หรือวิชาละ 9.33% 6.53
เคมี 80 7.46
ชีววิทยา 80 7.46
รวม 7 วิชาสามัญ 70% 48.75

เมื่อนำคะแนนทั้งสองมารวมกัน 18.7 + 48.75 = 67.45 ก็กลายเป็นคะแนนที่นายเมาคลี คาดการณ์ว่าตนเองจะทำได้ในการสอบกสพท. ตัวเลขสมมตินี้จะทำให้นายเมาคลีรู้ว่าควรจัด 4 อันดับ การสอบ กสพท. อย่างไร โดย นายเมาคลี เลือกและให้เหตุผลดังต่อไปนี้

อันดับ คณะ/สถาบัน คาดการณ์คะแนน ปี 60 เหตุผล
1 คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 71.474 อยากเข้าที่นี่มากที่สุด เดี๋ยวฟิตหนักๆ แล้วลุ้นกันอีกที
2 คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล 69.3962 ลุ้นไหวอยู่ ขอเสี่ยงเลือกเป็นอันดับที่ 2
3 คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล 67.9342 มาตรฐานเราใกล้เคียงแล้ว อัพสกิลอีกนิด ไม่มีหลุด
4 คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 65.225 เอาชัวร์แล้ว แต่ก็ต้องฟิต ห้ามติดประมาทนะเรา

จากขั้นตอนทั้งหมดที่เหมือนจะยุ่งยาก แต่มีประโยชน์อย่างมากนะคะ เพราะนอกจากเราจะเห็น ภาพรวมล่วงหน้า ก็ยังสามารถวิเคราะห์ตัวเองได้ด้วยว่าควรทำคะแนนส่วนไหนเพิ่มเพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย
ตัวอย่างเช่น หากนายเมาคลี อยากติดอันดับ 1 เขาก็ต้องทำคะแนนสอบความถนัดแพทย์ให้ได้มากขึ้น เช่นเดียวกับ คณิตศาสตร์ และ ภาษาอังกฤษ ที่มีสัดส่วน 14 % โดยส่วนที่เหลือก็ต้องทำตามมาตรฐานที่วางเอาไว้ให้ได้ รับรองเลย นายเมาคลี ไม่หลุด 4 อันดับที่เลือกไว้แน่นอน
เห็นไหมค่ะข้อมูลก็มีประโยชน์ ช่วยให้เราวางแผนได้ดีขึ้น โดยเฉพาะกับการเลือก 4 อันดับ ก่อนที่จะเห็นคะแนน มันเป็นอะไรที่ต้องรัดกุมมากๆเลยนะ อย่าลืมนะจ๊ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง

Top
สอบถามรายละเอียดได้ที่นี่ค่ะ