เคล็ดลับการสอบ MD02 จาก WE IDOL ที่ 1 แพทย์ มข.
ช่วงนี้เป็นช่วงรับสมัครสอบของแพทย์ มข.ทั้งโครงการ MDX, โครงการ MD02 และ โครงการ DTX ซึ่งทั้งสามโครงการจะเป็นสนามการสอบสำคัญแรกๆที่เด็กภาคอีสานจะเจอก่อนที่จะเริ่มสอบสนามแอดมิชชั่น
วันนี้ WE BY THE BRAIN ชวนพี่ก็อต WE IDOL เด็ก WE คนเก่ง จากโรงเรียนอุดรพิทยานุกูล จ.อุดรธานี ที่ตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ที่ชั้นปีที่ 1 คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ด้วยการสอบเข้าผ่านโครงการ MD02 และพี่ก็อตก็สอบเข้าได้คะแนนสูงสุด อันดับ 1 ของโครงการนี้ด้วย
พี่ก๊อตจะมาแนะนำ และแชร์ประสบการณ์การสอบ แนวข้อสอบ การสัมภาษณ์ รวมถึงแนะการเตรียมตัวสอบ โครงการ MD02 ให้กับน้องๆ ที่ฝันอยากเป็นนักศึกษาแพทย์ มข. มาตามอ่านกันเลยดีกว่า
แนะนำสนามสอบ MD02 ให้น้องๆที่สนใจอยากสอบเข้าแพทย์ มข. นิดนึง
MD02 หรือ โครงการผลิตแพทย์เพิ่ม ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา เป็นโครงการโควตารับตรงพิเศษของ แพทย์ มข. ซึ่งเปิดให้เฉพาะเด็กภาคอีสานสอบ โดยที่เงื่อนไขก็คือ ต้องอยู่ในแผนการเรียนคณิต – วิทย์ เกรด 3.00 ขึ้นไป โดยคณะแพทยศาสตร์จะเป็นคนออกข้อสอบเองครับ จัดสอบเอง
แนวทางเกณฑ์การสอบและข้อสอบ MD02 มีอะไรบ้าง
การสอบแพทย์ MD02 นะครับ การคิดคะแนนจากการสอบ 7 วิชา คือ คณิต ไทย สังคม อังกฤษ ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา โดยทุกวิชาจะเต็มอยู่ที่ 100 คะแนน แล้วก็จะมีเงื่อนไขเกณฑ์ขั้นต่ำ คือ ทุกวิชาจะต้องผ่าน 30 % และคะแนนเฉลี่ยของทุกวิชาจะต้องรวมกันมากกว่า 50 % พอผ่านเงื่อนไขแล้วเราก็จะเอาคะแนนมาเรียงกันต่อ เพื่อเอา 76 คนแรก เพราะว่ามันรับ 76 คนครับ
การแข่งขันในการสอบโครงการ MD02 สูงแค่ไหน
MD02 ปี 2559 รับ 76 คนครับ แต่ว่ารู้สึกว่าปีนี้จะคนสอบประมาณเกือบจะห้าพันคน (อัตราการแข่งขันสูงทีเดียว)
ในมุมของน้องก๊อต คิดว่าข้อสอบแต่ละวิชาเป็นยังไง วิชาไหนยาก วิชาไหนง่าย
วิชาที่ยากสุด คิดว่าคือ ฟิสิกส์นะครับ เพราะว่าเหมือนกับเพิ่งปรับข้อสอบใหม่ ปกติรุ่นพี่บอกว่า ฟิสิกส์มันจะง่าย ก็เลยเตรียมแบบ ไม่ได้เตรียมไว้หนักมากเท่าไหร่ จะอ่านเก็บไว้ประมาณนึง พอไปเจอข้อข้อสอบจริงเพิ่งปรับก็ยากขึ้นมากแบบก้าวกระโดด ก็เลยแบบ ค่อนข้างจะแบบเสียself นึดนึง
วิชาที่ง่ายสุด น่าจะเป็นภาษาอังกฤษครับ เพราะว่าอังกฤษถ้าเทียบกับสนามอื่น สนาม GAT หรือ O-NET อังกฤษมันจะไม่ค่อยยากเท่าไหร่ จะเป็นแนวของโควตา มข. ครับ ถ้าทำข้อสอบของโควตา มข. เก่า ไปดี ๆ มันก็จะโอเคครับ
สำหรับวิชาคณิตศาสตร์ ผมว่ายากนะครับ ความยากมันก็ยากเกือบประมาณ PAT 1 ซึ่งยากกว่า 9 วิชาสามัญ ทุก ๆ ปี จะมีคนบ่นตลอดว่าตกมีน 30 % (เงื่อนไขเกณฑ์ขั้นต่ำของการยื่นคะแนน) แต่ว่าปีนี้เขาปรับให้มันง่ายขึ้น ข้อสอบออกเนื้อหารวม ๆ ยกเว้น แคลคูลัส การใช้เวลาทำข้อสอบให้เวลาค่อนข้างน้อย เพราะว่า มัน 90 นาที 40 ข้อ ก็ตกข้อละประมาณนาทีกว่า ๆ เขาก็เลยเข้าไปเล็งเอาให้ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำ 30 ก็พอ ครับ
แล้วได้นำเทคนิคของ WE TUTORS เอาไปใช้สอบยังไงบ้าง
เทคนิคของพี่ ๆ WE BY THE BRAIN นะครับ ช่วยได้เยอะมากเลยครับ มันมีทั้งแบบสูตร เทคนิคการมองโจทย์ เทคนิคการจำ หลายอันแบบใช้ได้เยอะมาก จริง ๆ เปิดปุ๊บแล้วแบบอันนี้มันใช้ได้นะ เคยทำแบบนี้มาก่อน ก็เลยแบบค่อนข้างโอเคมาก happy กับตอนสอบ
พอผ่านการสอบข้อเขียนแล้ว ตอนสัมภาษณ์เจออะไรบ้าง
ในตอนสอบสัมภาษณ์ใช้เวลา 2 วัน ครับ วันแรกช่วงเช้าจะให้ทำเหมือนกับแบบประเมินสภาพจิตใจเรา ไปเช็คว่า คือคล้าย ๆ SDQ อ่ะครับ เหมือนไปเช็คว่า เราปกติมั้ย ไม่ได้มีปัญหาทางจิตนะ มีทำประมาณ 500 ข้อครับ เลือกแค่ ใช่/ ไม่ใช่ ไปเรื่อย ๆ แล้วก็พอตอนบ่ายก็จะเป็นตรวจร่างกาย ก็ตรวจทั่วไปอ่ะครับ มีตรวจเอกซเรย์ปอด ตรวจการได้ยิน ตรวจการมองเห็น ตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ อะไรแบบนี้ครับ ตรวจระบบต่าง ๆ หมดเลยครับ
ส่วนวันที่สอง ในช่วงเช้า ก็จะเป็นสอบสัมภาษณ์จริง ๆ ก็เขาจะให้ทุก ๆ คนแยกไปสอบสัมภาษณ์ในห้องเดี่ยว ในหนึ่งห้องก็จะมีอาจารย์สัมภาษณ์อยู่ประมาณ 2-3 คน ต่อนักเรียนหนึ่งคน ก็สัมภาษณ์ก็จะเริ่มที่ให้แนะนำตัวก่อน แล้วอาจารย์ก็เริ่มถามเราจากที่เราแนะนำตัว แล้วก็จะมีคำถามให้จับฉลากขึ้นมา ได้เป็นเกี่ยวกับเรื่อง โซเชียลมีเดีย ก็ตอบไปครับ อาจารย์ใจดีครับ เหมือนอาจารย์ต้องการดูทัศนคติของเรามากกว่า ก็โอเคครับ การสอบสัมภาษณ์ก็ผ่านไป
อยากให้แชร์เทคนิคการเตรียมตัวเพื่อสอบเข้าแพทย์ มข.
เทคนิคการเตรียมตัวของก็อตนะครับ ก็เริ่มเตรียมตัวจริง ๆ ประมาณช่วงปิดเทอมใหญ่ขึ้น ม. 6 ช่วงนั้นช่วงปิดเทอมใหญ่ ก็อตก็ลงเป็นคอร์ส ADMISSIONS ต่าง ๆ สรุปเนื้อหาให้มันจบก่อน เสร็จแล้วปิดเทอมใหญ่ก็ให้จบเนื้อหาทั้งหมด
แล้วพอเปิดเทอมมาก็อตก็ลงเป็นตะลุยโจทย์นิด ๆ หน่อย ๆ บางวิชาที่ไม่ค่อยเก่ง ก็อตไม่ค่อยเก่งคำนวณก็ลงตะลุยโจทย์พวกคณิตกับฟิสิกส์อะไรแบบนี้บ้าง เสร็จแล้วก็เน้นแบบอ่านหนังสือทุกวัน
แบ่งอ่าน แต่ว่าแบบอ่านทุกวัน วันละอย่างน้อยต้องได้อ่านชั่วโมงนึง เหมือนกับให้มันเป็นนิสัย ให้มันติด ๆ กันไว้ อย่าหยุด เพราะว่าถ้าสมมติเราหยุดอย่างนี้ เฮ้ย สบาย เราก็จะหยุดไปเรื่อย ๆ และก็เรื่องนึงก็จะอ่านประมาณสองรอบ อ่านเสร็จแล้ว พออ่านสองรอบปุ๊บก็จะทำโจทย์ ถ้าทำโจทย์ตรงไหนผิด ก็ให้กลับไปอ่านตรงที่ผิด แล้วก็กลับมาทำโจทย์ซ้ำ พยายามคิดว่าแบบ เฮ้ย ถ้าพลาดตรงไหน แสดงว่าเรายังพลาดนะ อะไรอย่างนี้ เรายังอ่านไม่พอ ก็อ่านซ้ำ ทำใหม่ ไปเรื่อย ๆ อย่างนี้ครับ
ฝากถึง WE BY THE BRAIN หน่อยว่าเราชอบอะไรที่นี่ แล้วคิดว่าที่นี่ให้อะไรกับเราบ้าง
สำหรับน้อง ๆ WE BY THE BRAIN นะครับ ที่นี่ก็พี่ ๆ ติวเตอร์น่ารักมาก พี่ ๆ พนักงานก็น่ารักมาก แล้วก็ให้ความรู้ต่าง ๆ เทคนิคต่าง ๆ เยอะมากครับ มันใช้ได้จริง จริง ๆ หลายอันในข้อสอบ ก๊อตจะใช้แบบนึกภาพออกมาเป็นหน้าพี่ติวเตอร์เลย แล้วก็สอนสนุกครับ
มาฟังเคล็ดลับการสอบ MD02 จากน้องก๊อต ที่ 1 แพทย์ มข. แบบจัดเต็มกันเลย!!