เคล็ดไม่ลับฉบับพี่เทียนหอม เหรียญทอง การแข่งขันคณิตศาสตร์ประเทศไทย ครั้งที่ 9

เปิดทำเนียบเด็กเก่ง สายแข่งขันอันดับหนึ่ง วันนี้พี่วี่วี่จะพามากระทบไหล่ เจาะเคล็ดลับเรียนดีของ “ พี่เทียนหอม”  ดีกรีเหรียญทอง คณิตศาสตร์ครั้งที่ 9 ของประเทศไทย กับความฝันที่อยากจะเป็นแพทย์หญิง มาตามติดเส้นทางความพยายาม และ เรียนรู้เทคนิคดี ๆ ในสนามสอบแข่งขันที่ท้าทาย ที่น้อง ๆ สามารถจำแล้วนำไปใช้ รับรองว่าเวิร์คชัวร์ ก่อนอื่นให้พี่เทียนหอมเริ่มแนะนำตัวเอง กับน้อง ๆ เลยค่ะ

Q : แนะนำตัวเอง

A : สวัสดีค่ะ พี่ชื่อเทียนหอม นางสาวเทียนหอม ศิลาแยง กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัย ได้สอบแข่งขันคณิตศาสตร์แห่งประเทศไทย ครั้งที่ 9 ชนะเลิศรางวัลเหรียญทองค่ะ

Q : ชอบเรียนวิชาอะไร แล้วเรียนเรื่องไหนที่น้องชอบ

A : ชอบเรียนชีววิทยา กับ วิชาเคมี เพราะว่าเหมือนได้เอาความรู้ ที่เรียนมาประยุกต์ใช้ ส่วนวิชาที่ชอบมากที่สุดคือชีวะ เรื่องเกี่ยวกับร่างกายของมนุษย์ Anatomy ว่าร่างกายมันมีกลไกการทำงานยังไง ทำไมถึงเกิดการทำงานเป็นระบบต่าง ๆ ในร่างกายขึ้น ชวนให้เราได้สงสัย และตั้งคำถามกับมันค่ะ

Q : ชอบเข้าร่วมกิจกรรมอะไรในโรงเรียนบ้าง

A : กิจกรรมที่ชอบในโรงเรียน ก็จะเป็นโครงการติวพิเศษ ติวสอบชีวะ เคมี ให้เพิ่มเติม เพื่อที่เราจะเอาความรู้ไปสอบเข้าค่ายส่วนกิจกรรมช่วงปิดเทอมก็ได้มีโอกาส ไปสอบแข่งขันไปเข้าค่ายโอลิมปิกวิชาการ ชื่อค่ายสอวน. ที่มหาลัยขอนแก่น เป็นประสบการณ์ที่ดีมาก ๆ เลยค่ะ

Q : เล่าให้ฟังหน่อยกับการเตรียมตัวแข่งขันคณิตศาสตร์แห่งประเทศไทย

A : เริ่มต้นที่ไปสอบแข่งขันเพื่อต้องการเก็บเกี่ยวประสบการณ์เกี่ยวกับคณิตศาสตร์ เพราะว่าอยากท้าทายในวิชาคณิตศาสตร์ที่เราค่อนข้างไม่ถนัด ก็เลยสมัครเป็นตัวแทนในการแข่งขัน เผื่อได้นำความรู้จากสนามสอบ ไปต่อยอดประยุกต์เพื่อสอบแข่งขันด้านวิชาการในสนามเข้ามหาลัยอีกด้วย ในส่วนของการเตรียมตัวสอบแข่งขัน ก็มีการทบทวน อ่านทำความเข้าใจเนื้อหาข้อสอบบ้าง ว่าเรื่องนี้เป็นมายังไง ใช้สูตรเป็นแบบไหน เราก็อ่านจนจบจากนั้นมาสรุปสูตรไว้ แล้วก็อ่านจำไปสอบ แล้วก็หาโจทย์แข่งขันเก่า ๆ มาลองฝึกทำหลาย ๆ รอบก่อนลงสนามจริง การที่ฝึกทำโจทย์บ่อย ๆ ตอนเจอข้อสอบจริงเราจะได้มีสติ ไม่ลนจนพลาดคะแนนในการแข่งขันค่ะ

Q : วันแข่งขันจริงตื่นเต้นไหม เล่าเหตุการณ์วันนั้นให้พี่ฟังหน่อย

A : วันจริงตื่นเต้นมาก ๆ ค่ะ เพราะว่ากลัวสถานการณ์โควิดด้วย คนที่มาแข่งขันก็เป็นคนเก่ง ๆ ที่มาจากหลายจังหวัด แต่พอสอบจริงก็คลายความกังวลไปบ้าง ได้เจอเพื่อนที่เคยได้เจอกันตอนเข้าค่ายแข่งขันต่าง ๆ พูดคุยคลายเครียดก่อนเข้าสนามสอบเเข่งขัน เลยไม่เครียดและทำข้อสอบได้ ส่วนโจทย์การแข่งขันที่ทำจะแบ่งเป็น 2 PART คือ ช่วงเช้า กับ ช่วงบ่าย รอบเช้าก็จะเป็นประเมินศักยภาพ 40% ส่วนรอบบ่ายก็จะประเมินอัจฉริยภาพ 60% นำคะแนนมารวมกันเพื่อมา Ranking หาคะแนน และจัดลำดับ ส่วนความยากง่ายของข้อสอบแข่งขัน ในข้อสอบตอนเช้าจะไม่ค่อยยากมาก เท่าตอนบ่าย พี่ก็เอาทริคการสอนของ WE มาประยุกต์ใช้บ้าง ในการพลิกแพลงแก้โจทย์ในสนามสอบ เป็นตัวส่วนช่วยให้ทำข้อสอบได้ดีเลยค่ะ

Q : อาชีพที่อยากทำ

A : อาชีพที่ใฝ่ฝันก็อยากจะเป็นหมอ และอยากเข้าศึกษาที่คณะแพทยศาสตร์ค่ะ เพราะคิดว่ามันท้าทายดี เป็นอาชีพที่มีเกียรติ รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้รักษาคนป่วย เพราะว่าพี่มีความถนัดทางด้านชีวะ กับคณิตศาสตร์น่าจะนำไปประยุกต์ในด้านการแพทย์ได้ค่ะ

Q : มีใครเป็นฮีโร่ /ไอดอล แรงบันดาลใจในการชีวิต

A : ไอดอลที่พี่ชื่นชอบ ก็จะเป็นพี่หมอมิณทร์ ยงสุวิมล พี่เขาศึกษาอยู่ที่ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ติดตามพี่เขามาตั้งแต่ ป.1 ตั้งแต่พี่เขายังเป็นนักร้อง MIN เราก็เคยฟังเพลงของเขา แต่ยังไม่รู้ว่าพี่เขาเรียนเก่ง ไม่เก่ง แต่พอพี่เขาสอบติดหมอยิ่งทำให้เราชอบเขาขึ้นไปอีก และพี่เขายังเป็นแรงบันดาลใจที่เราอยากจะเรียนหมอเหมือนพี่เขาด้วยค่ะ

Q : คิดว่า ข้อดี/ข้อเสียของตัวเอง คืออะไร

A : ข้อดีคือเราเป็นคนที่พยายาม มุ่งมั่น ตั้งเป้าหมายในแต่ละวันแล้วถึงไปพักผ่อน พยายามใช้เวลาในการเรียนให้คุ้มค่าจะได้ไม่รู้สึกผิดทีหลัง เพราะเป็นคนรู้สึกผิดถ้าไม่ทำตามแผนในแต่ละวัน ส่วนข้อเสียก็จะเป็นคนที่มุ่งมั่น ตั้งใจเรียนมากเกินไป จนไม่มีเวลาทำกิจกรรมอย่างอื่น เช่นออกกำลังกาย ทำอาหาร หรือฝึก SKILL อื่น ๆ การที่ใช้เวลากับการเรียนมากเกินไปมันก็ไม่ดี ตอนนี้พี่ก็เลยพยายามหาอะไรอย่างอื่นทำบ้าง และพยายามแบ่งเวลาให้ดีกว่าเดิมค่ะ

Q : ช่วยแชร์เทคนิคอ่านหนังสือ หรือแนะนำเคล็ดลับดี ๆ หน่อย

A : ส่วนตัวเวลาเรียนก็จะตั้งใจเรียนเป็นหลัก ฟังที่อาจารย์พูดในห้องเรียน เพราะถึงแม้เราจะรู้มาแล้ว แต่บางอย่างก็ไม่เหมือนที่อาจารย์สอน เราจะได้ทริคเล็ก ๆ ที่ไม่รู้มาก่อน ถ้าเราไม่ตั้งใจก็จะพลาดเคล็ดลับดี ๆ ไป การที่ตั้งใจเรียนในห้องน่าจะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ส่วนเวลากลับไปบ้านพี่ก็จะทบทวนเนื้อหาเรียนในวันนั้น จะได้ไม่ค้างคา เคลียร์ทุกอย่างให้เรียบร้อย แล้วจดสรุปเป็นโน้ตอ่านก่อนสอบ บางทีก็เรียนพิเศษเสริมบทเรียนที่เราไม่แม่น ไม่เก็ทสิ่งที่เรียนมา การเรียนเพิ่มเติมก็จะช่วยเพิ่มความเข้าใจให้เราได้ค่ะ

Q : การแบ่งเวลาอ่านหนังสือในแต่ละอาทิตย์

A : จะแบ่งเวลาว่างที่โรงเรียนทำการบ้านให้เสร็จ ส่วนตอนเย็นก็จะเดินทางไปเรียนพิเศษเพิ่มเติม กลับบ้านมาถึงจะมาพักผ่อน ทานข้าว ดู YOUTUBE คลายเครียด ดูหนังใน NETFLIX และอ่านหนังสือทบทวนสักบทก่อนจะนอน แต่พี่ก็พักผ่อนในเวลาจำกัดที่ตั้งไว้ตามแพลน เพราะต้องอ่านหนังสือให้เสร็จก่อนค่ะ ส่วนก่อนสอบ 2 วันก็จะทบทวนจากโน้ตที่สรุปมาเป็นสมุดเลคเชอร์ ที่พี่สรุปอย่างละเอียดในแต่ละวิชา แต่ว่า 1 วันก่อนสอบก็จะพักผ่อนไม่อ่านหนังสือเลย เพราะว่าเราจะสับสนเนื้อหาในหัว พี่ก็จะเลือกรีแล็กซ์ดูหนังฟังเพลงบ้างเพื่อไม่ให้เครียดเกินไปก่อนสอบค่ะ

Q : บริหารเวลาในห้องสอบอย่างไร

A : พี่เป็นคนที่เตรียมพร้อมอยู่แล้ว เตรียมตัวทำโจทย์บ่อย ๆ บริหารเวลาในการทำข้อสอบเก่า ๆ ในทุกวันพี่ก็กำหนดว่าต้องทำโจทย์วันละกี่ข้อ เวลาทำข้อสอบจริงพี่ก็จะสามารถเฉลี่ยเวลาในการทำแต่ละข้อได้ง่ายขึ้น ทำทันเวลา จากการฝึกฝนบ่อย ๆ และไม่เสียคะแนนไปง่าย ๆ ค่ะ

Q : มีรางวัล หรือ การแข่งขันอะไรที่น้องรู้สึกประทับใจเป็นพิเศษ

A : การแข่งขันที่ประทับใจก็จะเป็นค่าย สอวน. คือค่ายโอลิมปิกวิชาการ ของมหาลัยขอนแก่น ก่อนจะเข้าค่ายก็จะมีการสอบคัดเลือก แล้วเป็นตัวแทนเข้าไปในค่าย จากนั้นก็จะมีอาจารย์มาสอนแล้วสอบคัดอีกทีเพื่อเลือกตัวแทนมหาลัยไปแข่งขันในระดับประเทศ แต่เป็นค่ายวิชาการที่ไม่ได้เครียดจนเกินไป เพราะค่ายก็มีกิจกรรมอื่น ๆ มีสังคมเพื่อน ๆ ช่วยเหลือกันอ่านหนังสือ เป็นโครงการที่ดีมาก ที่พี่ได้มีโอกาสเข้าไป ทำให้เราได้เจอคนเก่ง ๆ กว่าเรา จากที่เราคิดว่าเราเก่งแล้ว แต่พอเราได้เจอคนหลากหลาย มาแลกเปลี่ยนความรู้กัน ทำให้เราเริ่มมีความตั้งใจ ที่อยากจะพัฒนาตัวเราเองให้เก่งขึ้นไปอีก

Q : เคล็ดลับอะไรที่ทำให้เทียนหอม ได้ผลการสอบ O-NET  100 คะแนนเต็ม พอจะแนะนำได้ไหม

A : หลัก ๆ เลยก็คือการฝึกทำโจทย์  O-NET ย้อนหลัง ข้อสอบเก่า ๆ สัก 5 ปี เพราะถ้าเราจับจุดได้ แนวโจทย์ข้อสอบมักจะคล้าย ๆ แนวเดิม แล้วเวลาในห้องสอบจริง ก็ต้องพยายามมีสติ คิดทำโจทย์แต่ละข้อให้รอบคอบ เพราะว่าข้อสอบมันไม่ได้ยากก็จริง แต่ถ้าคิดไม่รอบคอบก็อาจผิดพลาดได้ ส่วนตัวพี่ตอนสอบจะเน้นอ่านวิชาคณิตศาสตร์เป็นพิเศษ เพราะว่ามันมีโจทย์ข้อหลอกเยอะ ก็เลยต้องระวังเป็นพิเศษ ถ้าคิดโจทย์ผิดแค่เสี้ยวเดียว คำตอบที่ได้ก็จะผิดหมดเลยค่ะ

Q : ชื่นชอบเทคนิคการสอน จากติวเตอร์คนไหน ใน WE บ้าง

A : สำหรับติวเตอร์ WE  ที่พี่ประทับใจ คือ พี่เอ๋ สอนวิชาคณิตศาสตร์ เทคนิคการสอนของพี่เขาจะสอนตั้งแต่พื้นฐาน ไล่ระดับความยากขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงสามารถนำไปประยุกต์ในโจทย์ที่ทำ แล้วก็จะพาตะลุยโจทย์ไปเรื่อย ๆ และเพื่อไม่ให้เราเครียดเกินไป พี่เอ๋ก็จะชอบเล่าเรื่องผี ฮา ๆ ทำให้รู้สึกไม่เครียด ผ่อนคลายในการเรียนในคอร์สอีกด้วย

Q: เรียนคณิตที่ WE ชอบบทไหนเป็นพิเศษ

A : ในวิชาคณิตศาสตร์ที่ WE ชอบเรื่องตรีโกณมากที่สุด เพราะโจทย์เรขาคณิตเป็นโจทย์ที่มันพลิกแพลงได้หลายอย่าง มีความท้าทาย ทำให้เรารู้สึกสนุกกับการทำโจทย์ ตรีโกณเป็นบทหนึ่งที่มีสูตรเยอะ แถมต้องใช้ความรู้วิเคราะห์ด้วยค่ะ

Q : เทคนิคการสอนวิชาคณิตศาสตร์ ใน WE ที่ช่วยน้องในสนามสอบจริง

A : คอร์สที่พี่เลือกเรียนเพิ่มเติมที่ WE ก็จะมี คอร์ส ม.ต้นรวมบทวิชาคณิตศาสตร์ , รวมบทม.ต้นภาษาไทย , ม.ต้นรวมบทเคมี , ม.ต้นรวมบทฟิสิกส์ ที่ WE ก็จะรวบรวมเนื้อหา ม.ต้น ทั้งหมด ในการลงเรียนทุกคอร์สก็เหมือนกับได้รู้สรุปเนื้อหาทั้งหมดมาพร้อมจบ อ่านก็เข้าใจง่าย ปูพื้นฐานความรู้ในแต่ละบทย่อย ก่อนเรียนจริงที่ห้องเรียน แล้วเอาทริคจากการสอนที่WE ไปประยุกต์ พลิกแพลงในการทำโจทย์ได้ง่ายขึ้นในสนามสอบจริงด้วยค่ะ โดยส่วนตัวพี่เป็นคนไม่เก่งด้านวิชาภาษาไทย เนื้อหาไม่แน่นก็ได้ลงเรียนคอร์สภาษาไทยกับพี่ยู WE BY THE BRAIN เทคนิคของพี่ยูช่วยได้มากในห้องสอบ เพราะพี่เขาสรุปเนื้อหาที่เข้าใจยาก เป็นกลอนคล้องจอง ทำให้จำได้ง่าย ชี้จุดหลอกในข้อสอบ จดสรุปเนื้อหาภาษาไทย ม.ต้นทั้งหมด ให้เราเตรียมตัวไปอ่านก่อนที่จะลงสนามสอบ ม.4 อีกด้วย ส่วนคอร์สวิชาเคมี ที่ WE ก็จะมีการสอนหลักการจำ เคล็ดลับหลายอย่าง ที่ช่วยให้ท่องตารางธาตุได้ง่าย ๆ แถมมีโจทย์ดี ๆ ที่เอาไปประยุกต์ใช้ ช่วยให้เรามองโจทย์และวิเคราะห์ได้ง่ายขึ้น ในคอร์สวิชาฟิสิกส์ที่ WE พี่ติวเตอร์ก็ช่วยสรุปเนื้อหาให้แม่น เนื้อหาดี ๆ ในม.ต้น พี่ก็จะได้จากที่ WE ทั้งหมด  บอกได้เลยว่าที่ WE BY THE BRAIN ก็ช่วยให้พี่ประยุกต์แก้โจทย์ฟิสิกส์ได้ง่ายขึ้น จากการปูพื้นฐานที่ WE มาก่อน แถมที่ WE หนังสือเรียนทุกคอร์สยังสรุปเป็นหนังสือมีสีสัน หลากหลาย ทำให้น่าอ่าน ช่วยให้เราจำมากกว่าการอ่านแบบธรรมดาค่ะ

Q: สุดท้าย แนะนำสำหรับน้อง ๆ ที่อยากจะสอบแข่งขันแบบเราหน่อย

A : พี่ก็แนะนำเริ่มจากวิธีง่าย ๆ ก็คือการตั้งใจเรียนในห้องเรียน ส่วนในเนื้อหาตรงไหนถ้าน้อง ๆ ยังไม่เข้าใจก็ให้ไปหาความรู้เพิ่มเติม อาจเรียนจาก YOUTUBE หรือ ไปสมัครเรียนพิเศษ อาจอ่านหนังสือทบทวนเนื้อหาเองก็ได้ เพื่อให้เราเก็ทในเนื้อหาทั้งหมด เพราะถ้าเราเข้าใจมันอย่างถ่องแท้ ก็จะได้เอาความรู้ไปใช้ต่อยอด วิเคราะห์ข้อสอบได้แม่น สำหรับน้อง ๆ ที่อยากเริ่มต้นปูพื้นฐานความรู้ เสริมบทที่เราไม่เข้าใจ WE BY THE BRAIN เหมาะมากสำหรับน้อง ๆ ที่อยากเรียนเสริมพื้นฐานก่อนลงมือทำโจทย์ยาก ๆ เพราะถ้าพื้นฐานไม่ดี ที่ WE ก็จะช่วยเสริมให้น้อง ๆ เข้าใจเองค่ะ

จบไปแล้วกับบทสัมภาษณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟกับ “พี่เทียนหอม” รวมถึงคำตอบในด้านการเรียนดี ๆ ทริคการแบ่งเวลาอ่านหนังสือ ที่อาจเป็นประโยชน์กับน้อง ๆ นอกจากนี้ทำให้เราได้เห็นถึงความพยายาม และความมุ่งมั่น ที่เป็นบันไดของความสำเร็จของทุกอย่างในด้านการเรียน รวมถึงการแข่งขันในระดับประเทศ ว่ามันเริ่มต้นที่ตัวเรา แต่ถ้าน้อง ๆ คนไหน อยากที่จะเก่ง พื้นฐานแน่น เรียนเสริมเพิ่มความมั่นใจในสนามสอบแข่งขัน อย่าลืมนึกถึง WE โรงเรียนกวดวิชาคณิตวิทย์ อันดับ 1 เพราะอนาคตดี ๆ เลือกได้ที่ WE BY THE BRAIN นะคะ

อ่านบทความของเด็ก WE คนเก่ง ต่อที่นี่ 

บทความที่เกี่ยวข้อง

Top
สอบถามรายละเอียดได้ที่นี่ค่ะ