บทความนี้ขอเอาใจน้อง ๆ ที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับ ม.ต้น หรือน้อง ๆ ม.3 ที่กำลังตัดสินใจว่าการเรียนต่อในระดับ ม.ปลาย จะเลือกเรียนสายไหนดี สายศิลป์ VS สายวิทย์ เลือกเรียนสายไหนที่ใช่และตอบโจทย์สำหรับเรา พร้อมไขข้อข้องใจ เรียนสายวิทย์ยากกว่าเรียนสายศิลป์จริงไหม? เรียนสายศิลป์แล้วตัวเลือกในการศึกษาต่อน้อยกว่าจริงหรือ? ข้อดี-ข้อเสียของการเรียนทั้งสายวิทย์ และ สายศิลป์ มีอะไรบ้าง? บทความนี้จาก We By The Brain มีคำตอบ พร้อมเผยวิธีวางแผนการเรียนล่วงหน้า เพื่อผลการเรียนที่ดีกว่าสำหรับน้อง ๆ ทุกคนค่ะ
Table of Contents
สิ่งที่ควรรู้ ก่อนเลือกสายเรียนที่เหมาะกับตัวเอง (สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมปลาย)
“เลือกเรียนผิดสาย ชีวิตเปลี่ยน” ยกตัวอย่างง่าย ๆ หากน้องเลือกเรียน สายวิทย์-คณิต เพียงเพราะว่า ยังไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร ยังไม่มีเป้าหมาย หรือยังไม่มีอาชีพที่อยากทำในอนาคต แต่เรียนเพราะคิดว่าเลือก สายวิทย์-คณิต แล้วจะทำให้มีตัวเลือกในการสอบเข้าเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยมากขึ้น อยากให้น้อง ๆ ลองคิดอีกแง่หนึ่งว่า…ถ้าต้องเรียนในวิชาที่ตัวเองไม่ถนัด ไม่ได้มีความชอบ จะมีความสุขในการเรียนได้อย่างไร? แล้วผลการเรียนจะออกมาดีได้จริงหรือเปล่า? และอย่าลืมว่าหากผลการเรียนเฉลี่ยในระดับ ม.ปลาย ไม่ดีก็จะส่งผลต่อการยื่นคะแนนเพื่อเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยอีกด้วย ดังนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดที่น้อง ๆ ควรรู้ก่อนเลือกสายเรียนต่อในระดับ ม.ปลาย ก็คือ ความชอบ ความถนัด และเป้าหมายในอนาคตของตัวเองค่ะ
หากน้องมีเป้าหมายที่ชัดเจน เลือกเรียนได้ตรงสาย ก็จะทำให้น้องเรียนอย่างมีความสุข ผลการเรียนก็จะดีตามไปด้วย สำหรับน้อง ๆ คนไหนที่ยังคิดไม่ออกว่าอยากประกอบอาชีพอะไรดี พี่วีวี่อยากให้น้องลองจินตนาการถึงภาพของตัวเองในอนาคตขณะประกอบอาชีพต่าง ๆ แล้วชั่งน้ำหนักดูว่า อาชีพไหนที่น้องอยากจะเป็น อยากจะทำจริง ๆ เพราะอย่าลืมนะคะว่า เราใช้ชีวิตในวัยเรียนนั้นเพียงไม่กี่ปี แต่เราจะต้องอยู่กับอาชีพที่เลือกไปอีกหลายสิบปีเลยทีเดียว
Q&A ถามมาตอบไป ไขข้อสงสัยที่เด็ก ม.ต้น อยากรู้ ก่อนขึ้น ม.ปลาย
Q1. สายวิทย์-คณิต เรียนยากกว่า สายศิลป์-คำนวณ และ ศิลป์-ภาษา จริงหรือไม่?
A1. ขอตอบว่า ยากกว่าแต่ไม่เกินความสามารถค่ะ เพราะการเลือกเรียนสายไหนนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับคำว่าเรียนยากหรือเรียนง่ายกว่ากันเท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับความชอบ ความถนัด เป้าหมายการเรียนต่อ และอาชีพในฝันของน้อง ๆ แต่ละคนด้วย
พี่วีวี่เชื่ออย่างยิ่งว่าหากเรามีเป้าหมายที่ชัดเจนว่าต้องการเรียนต่อในคณะไหน อยากสอบติดมหาวิทยาลัยใด หรืออยากประกอบอาชีพอะไรในอนาคต ก็จะทำให้เรามีใจสู้ แม้ว่าจะต้องเจอกับวิชาที่ยาก หรือวิชาที่ไม่ถนัด น้อง ๆ ก็จะสามารถผ่านไปได้อย่างแน่นอน เพราะความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จก็อยู่ที่นั่น หรือหากน้องคนไหนรู้ตัวว่าอ่อนวิชาใดก็ให้ขยันเป็นพิเศษ ดั่งประโยคที่ว่า “ไม่ถึงต้องเขย่ง ไม่เก่งต้องขยัน”
Q2. ข้อดี/ข้อได้เปรียบ ของสายการเรียนแต่ละสาย
A2. ข้อดี/ข้อได้เปรียบ สำหรับคนที่เลือกเรียนสายวิทย์-คณิต คือ มีโอกาสหรือมีทางเลือกสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้หลายคณะกว่าเด็กสายศิลป์ นอกจากนี้การเรียนสายวิทย์ยังทำให้มีพื้นฐานเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ที่ดี สามารถนำไปต่อยอดได้ในอนาคต
ข้อดี/ข้อได้เปรียบ สำหรับคนที่เลือกเรียนสายศิลป์ คือ เรียนไม่หนักเท่ากับสายวิทย์ ทำให้มีเวลาทบทวนเนื้อหาในบทเรียนได้มากกว่า มีโอกาสทำกิจกรรมต่าง ๆ ควบคู่ไปกับการเรียนได้ ซึ่งสามารถนำมารวบรวมทำเป็น Portfolio หรือ แฟ้มสะสมผลงานได้ และหากทำผลการเรียนได้ดีก็มีโอกาสสูงที่จะสอบติดในคณะที่คาดหวัง
Q3. ข้อเสีย/ข้อเสียเปรียบ ของสายการเรียนแต่ละสาย
A3. ข้อเสีย/ข้อเสียเปรียบ สำหรับคนที่เลือกเรียนสายวิทย์-คณิต คือ อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าการเรียนสายวิทย์-คณิต จะมีความเข้มข้นของเนื้อหาในบางรายวิชามากกว่าการเรียนสายศิลป์ โดยเฉพาะวิชาฟิสิกส์ (PHYSICS) วิชาชีววิทยา (BIOLOGY) และวิชาเคมี (CHEMISTRY) รวมถึงวิชาคณิตศาสตร์ (MATHS) ซึ่งหากใครที่ไม่มีความถนัด ไม่มีความชอบ และไม่ขยันมากพอ ก็อาจจะกลายเป็นข้อเสียเปรียบของการเลือกเรียนสายนี้ได้ เพราะ การเรียนที่หนักอาจส่งผลให้เกิดความเครียด ความกดดัน ทำให้ผลการเรียนแย่ลง และมีผลต่อการยื่นคะแนนเฉลี่ยสะสมเพื่อเข้าเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยได้
ข้อเสีย/ข้อเสียเปรียบ สำหรับคนที่เลือกเรียนสายศิลป์ คือ มีข้อจำกัดในเรื่องของคณะที่จะศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย ทำให้มีการแข่งขันค่อนข้างสูง ดังนั้น ผู้ที่จะเลือกเรียนสายศิลป์ ควรเป็นผู้ที่มีเป้าหมายทางการเรียนที่ชัดเจน มีความมุ่งมั่นตั้งใจเพื่อไปสู่อาชีพที่ใฝ่ฝัน และจำเป็นต้องมีการวางแผนการเรียนที่ดี ทำผลการเรียนให้ออกมาดีเยี่ยม ทั้งนี้เพื่อลดความเสี่ยงที่จะถูกเด็กสายวิทย์แย่งที่นั่งในคณะที่เด็กสายศิลป์อยากเข้าได้
แนะนำคอร์สเรียนพิเศษที่ตอบโจทย์เด็กสายวิทย์
สำหรับเด็กสายวิทย์-คณิต แล้วนั้นวิชาหลักที่จะต้องเจอ และเน้นหนักอย่างมาก แน่นอนว่า คือ วิชาวิทยาศาสตร์ ซึ่งจะแบ่งย่อยออกเป็น 3 รายวิชา คือ วิชาฟิสิกส์ (PHYSICS) วิชาชีววิทยา (BIOLOGY) และวิชาเคมี (CHEMISTRY) รวมถึงอีกหนึ่งวิชาที่สำคัญอย่าง วิชาคณิตศาสตร์ (MATHS) ที่จะมีความเข้มข้นของเนื้อหามากกว่าสายศิลป์
เชื่อว่าแค่ได้อ่านชื่อวิชาคงมีน้อง ๆ หลายคนที่รู้สึกกังวล ขนลุกขนพอง กลัวว่าจะเรียนยาก เรียนหนัก แต่อย่าเพิ่งท้อหรือหมดกำลังใจไปนะคะ เพราะ เป้าหมายมีไว้พุ่งชน ถ้าเรามีการวางแผนการเรียนที่ดี ก็ไม่ยากที่น้อง ๆ จะสามารถมีผลการเรียนที่ดีได้อย่างแน่นอนค่ะ หรือถ้าหากน้อง ๆ คนไหนอยากเพิ่มความมั่นใจ อยากได้รับคำแนะนำดี ๆ ทีมพี่ ๆ จาก We By The Brain ทุกคน ก็พร้อมให้คำปรึกษาและแนะนำคอร์สเรียนพิเศษที่เหมาะสมให้กับน้อง ๆ โดยวิชาเบื้องต้นที่อยากแนะนำให้น้อง ๆ ลงเรียนเพื่อปูพื้นฐานให้แน่น และเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับสอบเข้ามหาวิทยาลัย ได้แก่
ฟิสิกส์ (PHYSICS) – ลงคอร์สเรียนสำหรับ ม.4 เทอม 1 โดยมีให้เลือก 2 แบบ คือ แบบ ก. รวมบทเรียนตรงตามแบบ สสวท. หรือ แบบ ข. บทเรียนตรงตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ โดยคอร์สเรียนนี้จะเป็นการปูพื้นฐานทั้งหมดเกี่ยวกับวิชาฟิสิกส์ระดับ ม.ปลาย โดยเฉพาะ ม.4 ซึ่งจะส่งผลดีต่อผลการเรียนของน้อง ๆ ในระยะยาว เพราะการเริ่มต้นอย่างถูกต้อง ด้วยการมีพื้นฐานที่แน่น ก็จะทำให้การต่อยอดบทอื่นเป็นเรื่องง่าย
ชีววิทยา (BIOLOGY) – สำหรับน้อง ๆ สายวิทย์-คณิต พี่วีวี่แนะนำว่าควรเริ่มต้นการเรียน ม.ปลาย ด้วยกลุ่มคอร์สพื้นฐานทางชีววิทยา คอร์ส ม.4 เทอม 1 แบบรวมบท เนื้อหาครอบคลุมทั้งหลักสูตร สสวท. และ Textbook จากต่างประเทศ สอนโดยติวเตอร์ระดับแถวหน้าของเมืองไทย อย่างพี่บิ๊ก BIO ที่มีสไตล์การสอนเฉพาะตัว สอนละเอียด ชัดเจน เห็นภาพ ช่วยให้การเรียนชีวะเป็นเรื่องง่ายขึ้น และเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ทำให้เข้าใจเนื้อหาในระดับที่สูงขึ้นในอนาคตได้ดีมากยิ่งขึ้น
เคมี (CHEMISTRY) – เป็นอีกหนึ่งวิชาที่สำคัญสำหรับน้อง ๆ สายวิทย์-คณิต พี่วีวี่แนะนำให้เตรียมความพร้อมด้วยการลงคอร์สเรียนล่วงหน้าในทุก ๆ เทอม เพื่อให้ผลการเรียนในโรงเรียนดีขึ้น โดยเริ่มต้นปูพื้นฐานจากคอร์ส เคมี ม.4 เทอม 1 บทเรียนตามหลักสูตรสสวท. เป็นการปูพื้นฐานเคมีให้แน่นตั้งแต่ต้น เพราะก่อนจะเข้าสู่โลกของเคมีอย่างจริงจัง เราต้องมาทำความเข้าใจ basic ของวิชาเคมีกันก่อน ทั้งเรื่องของตารางธาตุ รวมถึงพันธะเคมีจึงจะสามารถต่อยอดเพื่อไปเรียนในบทเรียนที่ยากขึ้นในลำดับต่อไป
คณิตศาสตร์ (MATHS) – คอร์ส ม.4 เทอม 1 รวมบท ปูตั้งแต่พื้น จนถึงระดับ Advance พร้อมทำเกรดในห้องเรียน + บททฤษฎีจำนวนและเลขยกกำลัง เพื่อความครบและครอบคลุมเนื้อหาทั้งหมดที่เด็กสายวิทย์-คณิต ต้องรู้
และถึงแม้จะเรียนในสาย วิทย์-คณิต แต่เพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัยในฝันให้ได้นั้นวิชาอื่น ๆ ในชั้นเรียนก็เป็นสิ่งที่ทิ้งไม่ได้ โดยเฉพาะวิชาที่เกี่ยวข้องกับภาษา อย่างวิชาภาษาอังกฤษ (ENGLISH) รวมถึงวิชาภาษาไทย (THAI) เนื่องจากในบางคณะยังต้องใช้สัดส่วนคะแนนของวิชาทางด้านภาษาอยู่ อีกทั้งยังเกี่ยวพันถึงผลการเรียนเฉลี่ยในระดับชั้น ม.ปลาย อีกด้วย
ภาษาอังกฤษ (ENGLISH) – แนะนำให้เลือกลงคอร์ส ภาษาอังกฤษ ม.ปลาย โดยควรเรียนให้ครบทั้ง 3 คอร์ส ได้แก่ คอร์ส GRAMMAR POWER-UP เพิ่มทักษะทางด้านแกรมม่า ,คอร์ส READING BOOSTER เพื่อเพิ่มทักษะด้านการอ่าน และคอร์ส VOCAB ESSENTIALS เพื่อเพิ่มคลังคำศัพท์ และได้รู้เทคนิคที่ทำให้จำคำศัพท์ได้มากขึ้น
ภาษาไทย (THAI) – แนะนำให้เลือกลงคอร์ส ภาษาไทย สำหรับ ม.4 ซึ่งจะช่วยปูพื้นฐานภาษาไทยให้แน่นก่อนสอบเข้ามหาวิทยาลัย สกัดเนื้อหาสำคัญตามหลักสูตร และตรงแนวข้อสอบ TCAS
แนะนำคอร์สเรียนพิเศษที่ตอบโจทย์เด็กสายศิลป์
สำหรับน้อง ๆ ที่จะเลือกเรียนสายศิลป์ ไม่ว่าจะเป็น สายศิลป์-คำนวณ หรือ สายศิลป์-ภาษา วิชาหลักที่จะต้องเรียนและเน้นหนักอย่างมาก คือ วิชาเกี่ยวกับภาษา โดยภาษาที่จำเป็นที่สุดไม่ว่าน้อง ๆ จะเลือกเรียนสายศิลป์-คำนวณ หรือ สายศิลป์-ภาษาใด ๆ ก็ตาม คือ ภาษาอังกฤษ (ENGLISH) จึงจำเป็นอย่างมากที่จะต้องตั้งใจเรียน เพื่อทำผลการเรียนให้ดี และทำคะแนนสอบให้ได้ตรงตามเป้า นอกจากวิชาภาษาอังกฤษแล้ว วิชาภาษาไทย (THAI) ก็สำคัญไม่แพ้กัน จึงต้องมีการวางแผนการเรียนให้ดี และเตรียมตัวให้พร้อม เพื่อพิชิตคะแนนในสนามสอบต่าง ๆ ให้ได้ตามที่ตั้งใจ
นอกจากวิชาที่เกี่ยวข้องกับภาษาแล้ว วิชาอื่น ๆ ก็สำคัญไม่แพ้กัน คือ วิชาคณิตศาสตร์ (MATHS) ,วิชาวิทยาศาสตร์ ซึ่งจะแบ่งย่อยออกเป็น ฟิสิกส์ (PHYSICS) ชีวะ (BIOLOGY) และเคมี (CHEMISTRY) ซึ่งเป็นวิชาเรียนที่เด็กสายศิลป์หลายคนขยาด แต่อย่าเพิ่งท้อหรือหมดกำลังใจไปนะคะ เพราะ ถ้าเรามีการวางแผนการเรียนที่ดี ไม่ว่าจะเป็นวิชาใดก็ไม่ยากที่น้อง ๆ จะสามารถมีผลการเรียนที่ดีได้อย่างแน่นอนค่ะ
หากน้อง ๆ คนไหนอยากเพิ่มความมั่นใจ อยากได้รับคำแนะนำดี ๆ ทีมพี่ ๆ จาก We By The Brain ทุกคน ก็พร้อมให้คำปรึกษา และแนะนำคอร์สเรียนพิเศษที่เหมาะสมให้กับน้อง ๆ โดยวิชาเบื้องต้นที่อยากแนะนำให้น้อง ๆ ที่เลือกเรียนสายศิลป์ลงเรียนเพื่อปูพื้นฐานให้แน่น และเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเริ่มเรียน มีดังนี้
ภาษาอังกฤษ (ENGLISH) – แนะนำให้เลือกลงคอร์ส ภาษาอังกฤษ สำหรับ ม.ปลาย โดยควรเรียนให้ครบทั้ง 3 คอร์ส เพื่อให้ได้เนื้อหาครบทุกประเด็น ได้แก่ คอร์ส GRAMMAR POWER-UP เพิ่มทักษะทางด้านแกรมม่า ,คอร์ส READING BOOSTER เพื่อเพิ่มทักษะด้านการอ่าน และคอร์ส VOCAB ESSENTIALS เพื่อเพิ่มคลังคำศัพท์ เสริมด้วยเทคนิค Remembrain จำศัพท์ให้ฝังสมอง รับรองว่าเจอศัพท์ไหนก็พร้อม Fight คว้าคะแนนดี ๆ ได้ทั้งในโรงเรียน และทุกสนามสอบสำหรับสอบเข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัย
ภาษาไทย (THAI) – แนะนำให้เลือกลงคอร์ส ภาษาไทย สำหรับ ม.4 – ม.6 เพราะการลงเรียนล่วงหน้านั้นจะช่วบเพิ่มเกรดในห้องเรียน ทำให้ผลการเรียนเฉลี่ยรวม 3 ปี ดีขึ้น เรียนภาษาไทยกับ WE การันตีว่าช่วยแก้ปัญหาตรงจุด เปลี่ยนจุดด้อยเป็นจุดเด่น สกัดเนื้อหาสำคัญตามหลักสูตร และตรงแนวข้อสอบ TCAS นอกจากนี้ยังมีโจทย์ให้ฝึกทำ ที่คัดสรรและเก็งโจทย์ที่น่าจะออกสอบโดยพี่ยู 1 ใน WE Tutors พร้อมเทคนิคสรุปจำเป็นทำนอง สนุกท่องเป็นจังหวะ
คณิตศาสตร์ (MATHS) – สำหรับน้อง ๆ สายศิลป์คำนวณ เนื้อหาวิชาคณิตศาสตร์จะเรียนเหมือนกันกับน้อง ๆ สายวิทย์ ดังนั้น จึงอยากแนะนำให้เลือกลงคอร์สคณิตศาสตร์ ม.4 เทอม 1 แบบรวมบท เพื่อพื้นฐานที่แน่น ช่วยให้สามารถทำคะแนนเก็บในห้องได้ดี คณิตศาสตร์ในห้องเรียนจะไม่ได้เข้มข้นเท่าสายวิทย์ แต่ลงคอร์สเรียน ม.4 เทอม 1 ก็ไม่เสียหาย เพราะเป็นเนื้อหาที่เด็ก ม.ปลาย ทุกคนต้องมีความรู้เป็นพื้นฐานเหมือน ๆ กัน จะได้ทำคะแนนสอบในห้องเรียนได้ดี และไม่พลาดหากต้องเจอโจทย์ยากในสนามสอบเข้าเรียนระดับมหาวิทยาลัย
วิชาวิทยาศาสตร์ ที่มีทั้ง ชีววิทยา (BIOLOGY) ,ฟิสิกส์ (PHYSICS) และเคมี (CHEMISTRY) – ถึงแม้จะไม่ได้เรียนเจาะลึกเข้มข้นเท่ากับ น้องที่เลือกเรียน สายวิทย์-คณิต แต่อย่างน้อย ๆ ก็ควรมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่ ม.4 โดยแนะนำให้น้อง ๆ สายศิลป์ ลงคอร์สเรียน ม.4 เทอม 1 เช่นเดียวกันกับน้อง ๆ สายวิทย์
ซึ่งทุกวิชาที่กล่าวมาข้างต้นนี้ จะสอนโดยทีมพี่ ๆ WE TUTORS ที่มากด้วยประสบการณ์ มีเทคนิคการสอนเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร เน้นการสอนที่สนุก ไม่น่าเบื่อ ที่สำคัญเนื้อหาครบถ้วน ไม่มีหลุดประเด็นสำคัญแน่นอน พร้อมพาน้อง ๆ ตะลุยโจทย์ มีสูตรดี ๆ ที่จะทำให้วิชาที่น้อง ๆ เคยคิดว่ายากง่ายขึ้นได้ สุดท้ายนี้ไม่ว่าน้อง ๆ จะเลือกเรียนต่อในสายไหน ก็ขอให้น้องทำให้ได้อยากที่หวัง เป็นให้ได้อย่างที่ฝันทุก ๆ คนนะคะ