น้อง ๆ รู้สึกกันมั้ยว่าตอนเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ ม.ต้น ในแต่ละเทอมจะมีเนื้อหาผสม ๆ กัน บางบทก็เป็นแบบท่องจำ บางบทก็เป็นแบบคำนวณ อาจจะเป็นความตั้งใจของคนที่จัดหลักสูตร ให้ในแต่ละเทอมมีความหลากหลาย และมีเนื้อหาไม่หนักจนเกินไป แต่ถ้าเราเอาเนื้อหาของวิชาวิทยาศาสตร์ ม.ต้น มาจัดกลุ่มใหม่ตามสาระการเรียนรู้ หรือพูดง่าย ๆ คือ จัดกลุ่มเหมือนกับที่ต้องเรียนในระดับ ม.ปลาย สายวิทย์ ก็จะได้ 4 สาระ ได้แก่ (1) ฟิสิกส์, (2) เคมี, (3) ชีวะ, (4) โลกและอวกาศ แล้วการจัดเนื้อหาการเรียนแบบนี้มีข้อดียังไงกันนะ เนื้อหาแต่ละสาระในวิชาวิทยาศาสตร์ ม.ต้น มีจุดเด่นอย่างไร? ตามมาดูพร้อมกันเลย!
ข้อดีของการเรียนเนื้อหาวิชาวิทยาศาสตร์ ม.ต้น แบบผสม
การจัดกลุ่มเนื้อหาแบบนี้ก็มีข้อดีอีกแบบ คือ ทำให้เราเห็นความต่อเนื่องของเนื้อหา เช่น ถ้าเราเรียนชีวะต่อเนื่องตั้งแต่พื้นฐานไปจนจบ เราก็จะได้เรียนเรื่องเซลล์ก่อน แล้วก็ไปเรียนต่อเรื่องพืช และเรื่องสัตว์ต่อเนื่องไปเลย ซึ่งทั้ง 2 เรื่องนี้มันจะต้องใช้ความรู้พื้นฐานในเรื่องเซลล์มาใช้ในการทำความเข้าใจด้วย ไม่ต้องรอจนข้ามเทอม หรือข้ามปีกว่าจะได้เรียนอีกบทนึงที่มีเนื้อหาเกี่ยวโยงกัน ซึ่งอาจจะต้องมาเสียเวลารื้อฟื้นเนื้อหาเก่ากันก่อนที่จะได้เรียนต่อ
เนื้อหาวิชาวิทยาศาสตร์ ม.ต้น มีอะไรบ้าง
เนื้อหาวิชาวิทยาศาสตร์ ในระดับ ม.ต้น แต่ละเทอมมีสาระอะไรบ้าง เรามาดูกันในตารางนี้เลย
เนื้อหาวิชาวิทยาศาสตร์ ม. 1
เนื้อหาวิชาวิทยาศาสตร์ ม. 1 เทอม 1
- หน่วยการเรียนรู้ สารบริสุทธิ์ กลุ่มสาระเคมี
- สมบัติของสารบริสุทธิ์
- การจำแนก และองค์ประกอบของสารบริสุทธิ์
- หน่วยการเรียนรู้ หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต กลุ่มสาระชีวะ
- เซลล์
- การลำเลียงสารเข้าออกเซลล์
- หน่วยการเรียนรู้ หน่วยพื้นฐานของการดำรงชีวิตของพืช กลุ่มสาระชีวะ
- การสืบพันธ์ุและการขยายพันธุ์พืชดอก
- การสังเคราะห์ด้วยแสง
- การลำเลียงน้ำ ธาตุอาหาร และอาหารของพืช
เนื้อหาวิชาวิทยาศาสตร์ ม.1 เทอม 2
- หน่วยการเรียนรู้ พลังงานความร้อน กลุ่มสาระฟิสิกส์
- ความร้อนกับการเปลี่ยนแปลงของสสาร
- การถ่ายโอนความร้อน
- หน่วยการเรียนรู้ กระบวนการเปลี่ยนแปลงลมฟ้าอากาศ กลุ่มสาระโลกและอวกาศ
- ลมฟ้าอากาศรอบตัว
- มนุษย์และการเปลี่ยนแปลงลมฟ้าอากาศ
H3 เนื้อหาวิชาวิทยาศาสตร์ ม. 2
เนื้อหาวิชาวิทยาศาสตร์ ม. 2 เทอม 1
- หน่วยการเรียนรู้ สารละลาย กลุ่มสาระเคมี
- องค์ประกอบของสารละลายและปัจจัยที่มีผลต่อสภาพละลายได้
- ความเข้มข้นของสารละลาย
- หน่วยการเรียนรู้ ร่างกายมนุษย์ กลุ่มสาระชีวะ
- ระบบอวัยวะในร่างกายของเรา
- หน่วยการเรียนรู้ การเคลื่อนที่และแรง กลุ่มสาระฟิสิกส์
- การเคลื่อนที่
- แรงในชีวิตประจำวัน
เนื้อหาวิชาวิทยาศาสตร์ ม. 2 เทอม 2
- หน่วยการเรียนรู้ งานและพลังงาน กลุ่มสาระฟิสิกส์
- งาน กำลัง และเครื่องกลอย่างง่าย
- พลังงานกล และกฎการอนุรักษ์พลังงาน
- หน่วยการเรียนรู้ การแยกสาร กลุ่มสาระเคมี
- การแยกสารและการนำไปใช้
- หน่วยการเรียนรู้โลกและการเปลี่ยนแปลง กลุ่มสาระโลกและอวกาศ
- โครงสร้างภายในโลกและการเปลี่ยนแปลงบนผิวโลก
- ดินและน้ำ
- ภัยธรรมชาติบนผิวโลก
เนื้อหาวิชาวิทยาศาสตร์ ม. 3 เทอม 1
- หน่วยการเรียนรู้ พันธุศาสตร์ กลุ่มสาระชีวะ
- การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม
- หน่วยการเรียนรู้ คลื่นและแสง กลุ่มสาระฟิสิกส์
- คลื่น
- แสง
- หน่วยการเรียนรู้ ระบบสุริยะของเรา กลุ่มสาระโลกและอวกาศ
- ปฏิสัมพันธ์ในระบบสุริยะ
เนื้อหาวิชาวิทยาศาสตร์ ม. 3 เทอม 2
- หน่วยการเรียนรู้ปฏิกิริยาเคมีและวัสดุในชีวิตประจำวัน กลุ่มสาระเคมี
- ปฏิกิริยาเคมี
- วัสดุในชีวิตประจำวัน
- หน่วยการเรียนรู้ไฟฟ้า กลุ่มสาระฟิสิกส์
- วงจรไฟฟ้าอย่างง่าย
- ไฟฟ้าในชีวิตประจำวัน
- หน่วยการเรียนรู้ระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ กลุ่มสาระชีวะ
- ระบบนิเวศ
- ความหลากหลายทางชีวภาพ
เรียนแบบเรียงตามภาคเรียน กับเรียนเรียงตามสาระ ตกลงยังไงดี
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นแล้วว่าการเรียนวิทยาศาสตร์แบบเรียงตามภาคเรียน กับเรียนตามสาระการเรียนรู้ก็มีข้อดีข้อเสียกันคนละแบบ ดังนั้นจึงขึ้นอยู่วัตถุประสงค์ของน้อง ๆ ว่าจะเรียนไปเพื่ออะไร ถ้าต้องการเรียนแบบชิลล์ ๆ ไม่เครียดเกินไปนัก เอาแค่ทำเกรดที่โรงเรียนให้ดี ก็เรียนแบบเรียงตามหลักสูตรที่โรงเรียนใช้สอนอยู่ได้เลย
อย่างไรก็ตาม ถ้าอยากเห็นภาพรวมของเนื้อหาแต่ละประเด็นก่อน แล้วค่อยเจาะรายละเอียดลงไป พี่ก็แนะนำว่าเรียนแบบแยกตามสาระฟิสิกส์, เคมี, ชีวะ ก็ดีเหมือนกัน มันทำให้เราเห็นความเชื่อมโยงของเนื้อหา และฝึกทำโจทย์ได้ละเอียดลึกซึ้งขึ้น และนี่คงเป็นเหตุผลว่าทำไมสถาบันกวดวิชาส่วนใหญ่มักจะเปิดคอร์สวิทยาศาสตร์ ม.ต้น แบบแยกตามสาระ น้อง ๆ ก็จะได้เรียนกับผู้เชี่ยวชาญในแต่สาระกันไปเลย
จุดเด่นของแต่ละสาระในวิชาวิทยาศาสตร์
แต่ละสาระการเรียนรู้นั้นมีจุดเด่นแตกต่างกัน สำหรับน้องบางคนที่ชอบทุกบทเลยในวิชาวิทยาศาสตร์ก็จะเรียนแบบมีความสุข และได้คะแนนออกมาดีตลอด แต่สำหรับบางคนที่ชอบบางบท บางสาระก็ยังคงต้องเรียนให้ครบทุกบท เพราะในระดับ ม.ต้น นั้น สาระฟิสิกส์, เคมี, ชีวะ, โลกและอวกาศ ถือเป็นวิชาเดียวกัน จะนำคะแนนที่ได้มาคิดรวมกันเป็นเกรด
ในระหว่างที่เราต้องไล่เรียนเรียงไปให้ครบทุกบทนั้น จะได้เป็นการค้นหาตัวเองด้วยว่า เราชอบวิทยาศาสตร์แนวไหน ชอบจำรายละเอียด หรือชอบคำนวณ ชอบแนวจินตนาการ หรือชอบแบบที่มองเห็นได้เป็นตัวเป็นตน ธรรมชาติของแต่ละสาระวิชาเป็นยังไงบ้าง มาดูกัน
จุดเด่นวิชาฟิสิกส์
เป็นเนื้อหาที่เรียนเกี่ยวกับปรากฏการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดรอบตัวเรา เราอาจเรียกว่าเป็นวิทยาศาสตร์กายภาพ เช่น
- การเคลื่อนที่ไปของวัตถุ
- การไหลไปของความร้อน
- การเดินทางของแสงและคลื่นต่าง ๆ
ความรู้ด้านฟิสิกส์เป็นเนื้อหาที่เรียนเกี่ยวกับปรากฏการณ์ต่างๆที่เกิดรอบตัวเรา เราอาจเรียกว่าเป็นวิทยาศาสตร์กายภาพ เช่น การเคลื่อนที่ไปของวัตถุ, การไหลไปของความร้อน, การเดินทางของแสงและคลื่นต่างๆ ความรู้ด้านฟิสิกส์เป็นสิ่งที่ทำให้มนุษย์บินได้ ทำให้มนุษย์มีแสง และความอบอุ่นไว้ใช้ในตอนกลางคืน ทำให้มนุษย์เดินทางออกสู่อวกาศได้ บางคนถึงขั้นกล่าวว่า “Physics is the king of sciences” (ฟิสิกส์เป็นราชาของวิทยาศาสตร์) นั่นเพราะวิชานี้สามารถอธิบายปรากฏการณ์ต่างๆได้ทั้งในโลก และนอกโลก ทั้งในระดับใหญ่มาก เช่น ดวงดาว จนถึงระดับเล็กมาก เช่น อะตอม
จุดเด่นวิชาเคมี
เป็นวิชาที่เรียนเกี่ยวกับสสารต่าง ๆ และการเปลี่ยนแปลงของสารรอบตัวเรา ในสมัยก่อนเป็นองค์ความรู้ที่ฮิตมาก ผู้คนเรียนเคมีกันเพื่อเปลี่ยนโลหะต่าง ๆ ให้กลายเป็นทองคำ ส่วนในปัจจุบันวิชานี้ก็ยังฮิตอยู่ นิสิตนักศึกษาระดับมหาวิทยาลัยที่ต้องเรียนเคมี ไม่ใช่แค่คณะวิทยาศาสตร์เท่านั้น แพทย์, ทันตะฯ, สัตวะฯ, เภสัชฯ ก็ต้องเรียนเคมีกันหมด เพราะสารเคมีมันคือวัตถุทุกสิ่งที่เราเห็นรอบตัวทั้งหมด ทั้งอาหาร, เสื้อผ้า, ยา, กระดาษ, ปากกา ก็เป็นสารเคมี
จุดเด่นวิชาชีววิทยา
เป็นวิชาที่ดูจับต้องได้มากที่สุดแล้ว เพราะวิชานี้เรียนเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตทั้งหมด ซึ่งเราเองก็เป็นสิ่งมีชีวิตด้วย เรียนไปแล้วก็จะพอเข้าใจตัวเองได้ว่าทำไมเราถึงป่วยได้ ทำไมลูกมีลักษณะบางอย่างคล้ายพ่อแม่แต่ไม่เหมือนกันเป๊ะ ทำไมเมื่อโลกร้อนขึ้นคนเราถึงเดือดร้อนกันนัก แค่ติดแอร์มันแก้ปัญหาไม่ได้เหรอ น้อง ๆ ที่ชอบชีววิทยามีแววที่จะชอบคณะสายแพทย์ด้วย เพราะคนที่เรียนหมอ เหมือนกับต้องเรียนชีววิทยาในระดับลึกตลอดทั้งหลักสูตรเลย
จุดเด่นวิชาโลกและอวกาศ
มีเนื้อหาแบ่งเป็น 2 ส่วนย่อย คือ
- โลก : จะเรียนธรณีวิทยา พวกชั้นหินที่เป็นโครงสร้างโลก, แผ่นดินไหว, ลมฟ้าอากาศ
- อวกาศ : จะเรียนดาราศาสตร์ เกี่ยวกับพวกดวงดาว หรือสิ่งที่อยู่นอกโลกทั้งหมด
สาระโลกและอวกาศนี้ถือว่าเป็นบทเล็ก เพราะออกข้อสอบน้อย แม้ว่าเนื้อหาทั้งหมดจะมีเยอะมาก แต่ตามหลักสูตรจะคัดเนื้อหาที่เหมาะสมกับระดับชั้นมาให้เรียน น้อง ๆ แค่อ่านให้ตรงจุดก็ทำข้อสอบได้
เรียนวิทย์ แบบเด็กสายวิทย์
แม้ว่าในระดับ ม.ต้น ยังไม่ได้แยกสายการเรียนเป็นสายวิทย์ หรือสายศิลป์ แต่ถ้าน้องคนไหนตั้งใจจะเรียนต่อ ม.ปลาย สายวิทย์อยู่แล้ว แนะนำว่าลองเรียนแบบเด็กสายวิทย์ดูก่อนเลย ดูว่าเราชอบที่จะเรียนแบบนี้มั้ย ก่อนตัดสินใจเลือกสายการเรียน ซึ่งการเรียนแบบเด็กสายวิทย์ที่ว่า คือ เรียนแยกตามสาระการเรียนรู้ ดังตาราง
วิทยาศาสตร์ ม.ต้น | |||||||||||
ม.1 | ม.2 | ม.3 | |||||||||
SUMMER | เทอม 1 | ตุลาคม | เทอม 2 | SUMMER | เทอม 1 | ตุลาคม | เทอม 2 | SUMMER | เทอม 1 | ตุลาคม | เทอม 2 |
ชีววิทยา ม.ต้น * | เคมี ม.ต้น * | ฟิสิกส์ ม.ต้น * | ตะลุยโจทย์ IJSO | ติวเข้ม & ตะลุยโจทย์มหิดลฯ / เตรียมอุดมฯ **ฟิสิกส์ + เคมี + ชีววิทยา | ทบทวนก่อนลงสนาม |
ไม่ว่าตอนขึ้น ม.ปลาย เราจะได้เรียนสายวิทย์หรือเปล่า แต่ก็อย่าได้ทิ้งแนวความคิด และจิตวิญญาณของนักวิทยาศาสตร์ ที่ต้องคิดอย่างมีเหตุผล และไม่เชื่ออะไรง่าย ๆ ขอให้น้อง ๆ ทุกคนมีความสุขกับการเรียนวิทยาศาสตร์นะครับ
สำหรับน้อง ๆ คนไหนที่อยากติวเข้มวิชาวิทยาศาสตร์ ม.ต้น เพื่อเตรียมตัวสอบเข้า ม.4 โรงเรียนสายวิทย์ชั้นนำอย่างโรงเรียนกำเนิดวิทย์ โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ และโรงเรียนเตรียมอุดม สามารถลงเรียนคอร์สติวสอบเข้า ม.4 กับ WE BY THE BRAIN ได้เลย พี่ติวเตอร์ของเราพร้อมติวแบบจัดหนักจัดเต็ม ลงลึกถึงข้อสอบทุกวิชา พร้อมให้คำแนะนำในเรื่องการเรียน และการสอบอย่างใกล้ชิด รับรองว่าจะช่วยให้น้อง ๆ เก็บคะแนนสอบได้สูงขึ้นอย่างแน่นอน!
สอบถามรายละเอียดคอร์สเตรียมสอบเข้า ม.4 จาก WE BY THE BRAIN ได้ที่
- WE CARE : 02-952-6767
- Line OA : @weplus_care
- Facebook Page : WE BY THE BRAIN
- Instagram : webythebrain
- Twitter : @WEBYTHEBRAIN
- Youtube : WE BY THE BRAIN
โรงเรียนกวดวิชา วี บาย เดอะเบรน เรียนสนุก เข้าใจง่าย ทำโจทย์ได้จริง!