TGAT คืออะไร? ต้องสอบอะไรบ้าง? รวมข้อมูล TGAT สำหรับ #DEK66 เป็นต้นไป

TGAT คืออะไร

DEK66 ที่กำลังงง ๆ ว่าข้อสอบ TGAT คืออะไร จะเหมือนข้อสอบ GAT ของปีก่อน ๆ ไหม ด้วยความที่มีการเปลี่ยนแปลงใน TCAS66 เป็นปีแรก ก็ไม่แปลกที่น้อง ๆ จะกังวลใจเป็นพิเศษ ว่าปีนี้เราจะเอายังไงกันดี วันนี้พี่วีวี่จะมาตอบทุกข้อสงสัยให้ในบทความนี้ ใครอ่านจบได้แนวทางในการเตรียมตัวสอบ TGAT แน่นอน

TGAT คืออะไร?

TGAT ย่อมาจาก Thailand General Aptitude Test วัดความถนัดทั่วไป ไม่เน้นเนื้อหาความรู้เชิงวิชาการ ข้อสอบ TGAT จะมีทั้งหมด 3 ด้านด้วยกันคือ

  • การสื่อสารภาษาอังกฤษ (English Communication)
  • การคิดอย่างมีเหตุผล (Critical & Logical Thinking)
  • สมรรถนะการทำงาน (Future Workforce Competency) ได้แก่ การสร้างคุณค่าและนวัตกรรม การแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน การบริหารจัดการอารมณ์ และการเป็นพลเมืองที่มีส่วนร่วมของสังคม

3 ส่วนนี้จะถูกประกาศคะแนนแบบแยกส่วน วิชาละ 100 คะแนน ทางมหาวิทยาลัยอาจเลือกใช้ส่วนใดส่วนหนึ่งได้ และในปีนี้คะแนน TGAT สามารถนำไปใช้ในการคัดเลือกรอบ Portfolio ได้ด้วย ขึ้นอยู่กับทางมหาวิทยาลัยจะกำหนด

ตอนนี้ได้มี TEST BLUEPRINT โครงสร้างและตัวอย่างข้อสอบของ TGAT 3 สมรรถนะการทำงานออกมาแล้ว น้อง ๆ สามารถดูได้ที่นี่เลย https://bit.ly/3wevcRb

TGAT VS GAT เหมือนกันไหม ต่างกันตรงไหน

TGAT vs GAT

ใครที่กำลังสงสัยว่า TGAT เหมือนกับ GAT แบบเดิมไหม บอกเลยว่าไม่เหมือนนะคะน้อง ๆ ตั้งแต่สัดส่วนข้อสอบที่ต่างกัน วิธีคิดคะแนนก็ต่างกัน แม้แต่ ENGLISH COMMUNICATION ก็ไม่เหมือนกับ GAT-ENG ของพี่ ๆ ปีก่อนเพราะปีนี้จะเน้นไปที่การใช้ในชีวิตประจำวันมากขึ้น  แถมยังต้องวัดสมรรถนะในการทำงานอีกด้วย

TGAT จะประกาศคะแนนแบบแยกส่วน มหาวิทยาลัยสามารถเลือกใช้คะแนนส่วนใดส่วนหนึ่งได้ และในปีนี้คะแนน TGAT สามารถนำไปใช้ในการคัดเลือกรอบ Portfolio ได้ด้วย ขึ้นอยู่กับแต่ละมหาวิทยาลัยจะกำหนด

รูปแบบการสอบ

ในปีนี้น้อง ๆ สามารถเลือกได้ว่าจะสอบแบบคอมพิวเตอร์ หรือแบบกระดาษ ค่าสมัครสอบราคาเท่ากันคือ 140 บาท ซึ่งปกติการสอบด้วยคอมพิวเตอร์จะราคา 200 บาท แต่ปีนี้เป็นปีแรกของการสอบด้วยคอมพิวเตอร์ ทางทปอ.จึงลดราคาให้เท่ากับการสอบด้วยกระดาษเพื่อจูงใจให้น้อง ๆ มาสมัครสอบกัน การสอบด้วยคอมพิวเตอร์จะใช้ระบบเดียวกับการสอบ PISA  สามารถทราบคะแนนสอบได้ภายในวัน 3 วันหลังการสอบ

สนามสอบ

หากน้อง ๆ สอบด้วยคอมพิวเตอร์ก็ต้องเลือกสนามสอบเป็นมหาวิทยาลัย หากสอบด้วยกระดาษก็เลือกสนามสอบเป็นโรงเรียน โดยน้อง ๆ สามารถเลือกสนามสอบได้ไม่เกิน 5 แห่ง แล้วระบบจะสุ่มให้ว่าใครได้สนามสอบไหน ซึ่งน้อง ๆ ที่สอบหลายวิชาสามารถเลือกสอบแบบคอมพิวเตอร์กับแบบกระดาษสลับกันได้ค่ะ

เป็นยังไงกันบ้างคะกับข้อมูลการสอบ TGAT ที่พี่วีวี่รวบรวมมาให้ หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้น้อง ๆ เข้าใจ TGAT และมีแนวทางในการเตรียมตัวมากขึ้นนะคะ และถ้ามี TEST BLUEPRINT ของ TGAT 1 และ TGAT 2 ประกาศมาเมื่อไหร่ พี่วีวี่จะรีบนำข้อมูลมาฝากน้อง ๆ แน่นอน

ส่วนน้อง ๆ ที่กำลังมองหาคอร์สเรียน TGAT อยู่ ที่ WE มีให้แน่นอน อดใจรอกันอีกไม่นานนะคะน้อง ๆ ระหว่างนี้ก็เรียนคอร์ส Ultimate Series เตรียมพร้อมลงสนามสอบ A – LEVEL ไปพลาง ๆ ก่อนได้เลย ในครั้งหน้าพี่วีวี่จะมีเรื่องราวอะไรมาฝากอีกรอติดตามกันได้เลย

บทความที่เกี่ยวข้อง

Top
สอบถามรายละเอียดได้ที่นี่ค่ะ