ใกล้เข้ามาแล้วกับการสอบเข้ามหาวิทยาลัยในระบบ TCAS68 พี่วีวี่เชื่อว่า น้อง ๆ DEK68 หลายคนคงกำลังมองหาคณะที่ใช่กันอยู่ สำหรับใครที่รู้ตัวแล้วว่า ตนเองอยากเรียนต่อคณะอะไร พี่เอาใจช่วยและขอให้น้อง ๆ ใช้ช่วงเวลาที่เหลืออยู่ให้คุ้มค่า เตรียมตัวสอบให้พร้อมที่สุด แต่สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าจะเรียนต่อคณะอะไรดี พี่วีวี่มีหนึ่งคณะน่าสนใจมาแนะนำ นั่นก็คือ คณะวิทยาศาสตร์ เหมาะสำหรับน้อง ๆ ที่ชอบการทดลอง ชอบค้นคว้าหาคำตอบ หรืออยากเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ จะน่าสนใจแค่ไหน ตามไปดูกันเลย!
คณะวิทยาศาสตร์ เรียนเกี่ยวกับอะไร
คณะวิทยาศาสตร์เป็นคณะที่เน้นการศึกษาเกี่ยวกับธรรมชาติและปรากฏการณ์ต่าง ๆ รอบตัวเรา โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการค้นคว้าหาคำตอบ น้อง ๆ จะได้เรียนรู้ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติควบคู่กันไป โดยแต่ละชั้นปีจะมีการเรียนการสอนที่แตกต่างกันออกไป ตัวอย่างเช่น
- ปี 1 : น้อง ๆ จะได้เรียนวิชาพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ เช่น คณิตศาสตร์ เคมี ฟิสิกส์ และชีววิทยา เพื่อปูพื้นฐานความรู้ให้แน่นก่อนที่จะไปเรียนในสาขาวิชาเฉพาะทาง
- ปี 2 : น้อง ๆ จะเริ่มเจาะลึกลงไปในสาขาวิชาที่น้อง ๆ เลือกเรียน โดยจะมีทั้งวิชาบังคับและวิชาเลือกให้น้อง ๆ ได้ศึกษาตามความสนใจ
- ปี 3 : เน้นการเรียนในสาขาวิชาเฉพาะทางมากขึ้น มีการทำโครงงานวิจัย และฝึกงานในสถานประกอบการจริง เพื่อให้น้อง ๆ ได้นำความรู้ที่เรียนมาประยุกต์ใช้ และเตรียมพร้อมสำหรับการทำงานในอนาคต ที่สำคัญ
- ปี 4 : จะเรียนคล้าย ๆ กับปี 3 แต่น้อง ๆ จะได้ฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา และการทำงานในห้องปฏิบัติการอย่างลงลึก ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญมากในการทำงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คณะวิทยาศาสตร์ มีสาขาอะไรบ้าง
คณะวิทยาศาสตร์มีสาขาวิชาให้เลือกเรียนมากมาย แต่ละสาขาจะมีความน่าสนใจแตกต่างกันไป วันนี้พี่วีวี่จะมาแนะนำสาขาวิชาต่าง ๆ ในคณะวิทยาศาสตร์ โดยอ้างอิงจากคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศไทย มาดูกันว่ามีสาขาอะไรบ้างที่น่าสนใจ
1. คณิตศาสตร์และวิทยาการคอมพิวเตอร์ (Mathematics and Computer Science)
สาขานี้เป็นการผสมผสานระหว่างคณิตศาสตร์และคอมพิวเตอร์เข้าด้วยกัน น้อง ๆ จะได้เรียนรู้ทั้งทฤษฎีทางคณิตศาสตร์และการนำไปประยุกต์ใช้ในด้านคอมพิวเตอร์ เช่น การเขียนโปรแกรม การวิเคราะห์ข้อมูล และปัญญาประดิษฐ์ (AI) เหมาะสำหรับน้อง ๆ ที่ชอบคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหา และสนใจในเทคโนโลยีสมัยใหม่ ซึ่งเป็นที่ต้องการมากในตลาดแรงงานปัจจุบัน
2. เคมี (Chemistry)
เคมีเป็นวิชาที่ศึกษาเกี่ยวกับสสาร การเปลี่ยนแปลง และปฏิกิริยาต่าง ๆ ของสาร น้อง ๆ จะได้เรียนรู้ทั้งทฤษฎีและการทดลองในห้องปฏิบัติการ ตั้งแต่เคมีอินทรีย์ เคมีอนินทรีย์ ไปจนถึงเคมีวิเคราะห์ เหมาะสำหรับน้อง ๆ ที่ชอบการทดลอง มีความละเอียดรอบคอบ และอยากมีส่วนร่วมในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นยา เครื่องสำอาง หรือวัสดุนวัตกรรม เป็นต้น
3. ชีววิทยา (Biology)
ชีววิทยาเป็นการศึกษาเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิต ตั้งแต่ระดับโมเลกุลไปจนถึงระบบนิเวศ น้อง ๆ จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับโครงสร้างและการทำงานของสิ่งมีชีวิต พันธุกรรม และวิวัฒนาการ เหมาะสำหรับน้อง ๆ ที่สนใจธรรมชาติ รักสิ่งแวดล้อม และอยากทำความเข้าใจกลไกการทำงานของสิ่งมีชีวิต ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในด้านการแพทย์ การเกษตร หรือการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้
4. ฟิสิกส์ (Physics)
ฟิสิกส์เป็นวิชาที่ศึกษาเกี่ยวกับธรรมชาติและปรากฏการณ์ต่าง ๆ ในจักรวาล ตั้งแต่อนุภาคที่เล็กที่สุดไปจนถึงดวงดาวและกาแล็กซี น้อง ๆ จะได้เรียนรู้ทั้งทฤษฎีและการทดลอง เช่น กลศาสตร์ ไฟฟ้าและแม่เหล็ก อุณหพลศาสตร์ และฟิสิกส์ควอนตัม เหมาะสำหรับน้อง ๆ ที่ชอบคิดวิเคราะห์ มีความอยากรู้อยากเห็น และต้องการค้นหาคำตอบเกี่ยวกับกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ของธรรมชาติ
5. พฤกษศาสตร์ (Botany)
พฤกษศาสตร์เป็นสาขาที่ศึกษาเกี่ยวกับพืช ตั้งแต่โครงสร้าง การเจริญเติบโต การสืบพันธุ์ ไปจนถึงนิเวศวิทยาของพืช น้อง ๆ จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับความหลากหลายของพืช การจำแนกพันธุ์พืช และการนำพืชไปใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ เหมาะสำหรับน้อง ๆ ที่รักธรรมชาติ สนใจเรื่องพืช และอยากมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์พันธุ์พืช หรือพัฒนาผลิตภัณฑ์จากพืช
6. เคมีเทคนิค (Chemical Technology)
เคมีเทคนิคเป็นการนำความรู้ทางเคมีมาประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรม น้อง ๆ จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการผลิต การควบคุมคุณภาพ และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมเคมี สาขานี้เหมาะสำหรับน้อง ๆ ที่ชอบเคมี แต่อยากเห็นการนำไปใช้จริงในภาคอุตสาหกรรม และสนใจในการพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด
7. ธรณีวิทยา (Geology)
ธรณีวิทยาเป็นการศึกษาเกี่ยวกับโลกและกระบวนการทางธรณีวิทยาต่าง ๆ น้อง ๆ จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับหิน แร่ การเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลก และทรัพยากรธรรมชาติใต้พื้นผิวโลก สาขานี้เหมาะสำหรับน้อง ๆ ที่ชอบสำรวจ ชอบทำงานภาคสนาม และสนใจในการค้นหาและจัดการทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากในอุตสาหกรรมพลังงานและเหมืองแร่
8. วิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม (Environmental Science)
วิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมเป็นการศึกษาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม น้อง ๆ จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศ มลพิษ การจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และการพัฒนาอย่างยั่งยืน สาขานี้เหมาะสำหรับน้อง ๆ ที่รักธรรมชาติ ห่วงใยสิ่งแวดล้อม และอยากมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่กำลังเป็นประเด็นสำคัญของโลกในปัจจุบัน
9. วิทยาศาสตร์ทางทะเล (Marine Science)
วิทยาศาสตร์ทางทะเลเป็นสาขาที่ศึกษาเกี่ยวกับทะเลและมหาสมุทร ทั้งในแง่ของสิ่งมีชีวิต สภาพแวดล้อม และปรากฏการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในทะเล น้อง ๆ จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศทางทะเล การอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล และการจัดการชายฝั่ง เป็นสาขาที่เหมาะสำหรับคนที่รักทะเล ชอบดำน้ำ และอยากมีส่วนร่วมในการปกป้องและฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเล
10. ชีวเคมี (Biochemistry)
ชีวเคมีเป็นการศึกษาที่ผสมผสานระหว่างชีววิทยาและเคมี โดยเน้นการศึกษากระบวนการทางเคมีที่เกิดขึ้นในสิ่งมีชีวิต น้อง ๆ จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับโครงสร้างและหน้าที่ของสารชีวโมเลกุล เช่น โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน และกรดนิวคลีอิก รวมถึงกระบวนการเมแทบอลิซึมต่าง ๆ เหมาะสำหรับน้อง ๆ ที่สนใจทั้งชีววิทยาและเคมี และอยากนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในด้านการแพทย์หรือเทคโนโลยีชีวภาพ
11. วัสดุศาสตร์ (Material Science)
วัสดุศาสตร์เป็นการศึกษาเกี่ยวกับโครงสร้าง สมบัติ และการประยุกต์ใช้วัสดุต่าง ๆ น้อง ๆ จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัสดุประเภทต่าง ๆ เช่น โลหะ พอลิเมอร์ เซรามิก และวัสดุผสม รวมถึงการออกแบบและพัฒนาวัสดุใหม่ ๆ เหมาะสำหรับน้อง ๆ ที่ชอบคิดค้นนวัตกรรม และอยากมีส่วนร่วมในการพัฒนาเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น วัสดุนาโน หรือวัสดุอัจฉริยะ
12. จุลชีววิทยา (Microbiology)
จุลชีววิทยาเป็นการศึกษาเกี่ยวกับจุลินทรีย์ เช่น แบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อรา น้อง ๆ จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับโครงสร้าง การเจริญเติบโต และบทบาทของจุลินทรีย์ในระบบนิเวศและในร่างกายมนุษย์ สาขานี้เหมาะสำหรับน้อง ๆ ที่สนใจเรื่องของเชื้อโรค ระบบภูมิคุ้มกัน และการนำจุลินทรีย์ไปใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ เช่น การผลิตอาหาร หรือการบำบัดน้ำเสีย
13. วิทยาศาสตร์ทางภาพถ่ายและเทคโนโลยีทางการพิมพ์ (Photographic Science and Printing Technology)
สาขานี้เป็นการศึกษาที่ผสมผสานระหว่างวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการถ่ายภาพและการพิมพ์ น้อง ๆ จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับหลักการทางฟิสิกส์และเคมีที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายภาพ การประมวลผลภาพ และเทคโนโลยีการพิมพ์สมัยใหม่ เหมาะสำหรับน้อง ๆ ที่ชอบถ่ายรูป สนใจเทคโนโลยีการพิมพ์ และอยากพัฒนานวัตกรรมในอุตสาหกรรมสื่อสิ่งพิมพ์และการถ่ายภาพ
14. เทคโนโลยีทางอาหาร (Food Technology)
เทคโนโลยีทางอาหารเป็นการนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร น้อง ๆ จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการแปรรูปอาหาร การพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร การควบคุมคุณภาพและความปลอดภัยของอาหาร สาขานี้เหมาะสำหรับน้อง ๆ ที่ชอบทำอาหาร สนใจในนวัตกรรมอาหาร และอยากมีส่วนร่วมในการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค
คณะวิทยาศาสตร์ จบมาทํางานอะไร เงินเดือนเริ่มต้นเท่าไหร่
น้อง ๆ หลายคนอาจสงสัยว่า เรียนจบคณะวิทยาศาสตร์แล้วจะไปทำงานอะไรได้บ้าง จริง ๆ แล้วอาชีพสำหรับบัณฑิตคณะวิทยาศาสตร์มีหลากหลายมาก ขึ้นอยู่กับสาขาวิชาที่น้อง ๆ เลือกเรียนและความสนใจส่วนตัว มาดูกันว่า มีอาชีพอะไรบ้างที่น่าสนใจ และเงินเดือนเริ่มต้นประมาณเท่าไหร่
- นักวิจัยและพัฒนา (R&D) : เงินเดือนเริ่มต้นประมาณ 20,000 – 30,000 บาท
- นักวิทยาศาสตร์ห้องปฏิบัติการ : เงินเดือนเริ่มต้นประมาณ 18,000 – 25,000 บาท
- นักวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analyst) : เงินเดือนเริ่มต้นประมาณ 25,000 – 35,000 บาท
- โปรแกรมเมอร์หรือนักพัฒนาซอฟต์แวร์ : เงินเดือนเริ่มต้นประมาณ 20,000 – 30,000 บาท
- อาจารย์สอนวิทยาศาสตร์ : เงินเดือนเริ่มต้นประมาณ 15,000 – 25,000 บาท
- นักสิ่งแวดล้อม : เงินเดือนเริ่มต้นประมาณ 18,000 – 25,000 บาท
- นักวิทยาศาสตร์การอาหาร : เงินเดือนเริ่มต้นประมาณ 20,000 – 30,000 บาท
- นักธรณีวิทยา : เงินเดือนเริ่มต้นประมาณ 25,000 – 35,000 บาท
อยากเข้าคณะวิทยาศาสตร์ ต้องสอบวิชาอะไรบ้าง
สำหรับน้อง ๆ ที่สนใจเข้าคณะวิทยาศาสตร์ผ่าน TCAS รอบ 3 (Admission) จะต้องสอบข้อสอบกลาง 3 กลุ่มหลัก ๆ เพื่อนำคะแนนมายื่น ดังนี้
1. TGAT
TGAT คือ ข้อสอบวัดความถนัดทั่วไปที่ไม่ได้เน้นเนื้อหาความรู้เชิงวิชาการ แต่จะเน้นด้านการนำความรู้ที่มีไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันและการทำงานจริง โดยจะมีทั้งหมด 3 ด้านด้วยกัน ได้แก่
- การสื่อสารภาษาอังกฤษ (English Communication)
- การคิดอย่างมีเหตุผล (Critical & Logical Thinking)
- สมรรถนะการทำงาน (Future Workforce Competencies)
2. TPAT3
TPAT3 คือ การสอบวัดความถนัดด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และวิศวกรรมศาสตร์ เป็นข้อสอบปรนัย 5 ตัวเลือก ใช้ระยะเวลาสอบ 180 นาที มีจำนวนทั้งหมด 70 ข้อ 100 คะแนนเต็ม แบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่
- การทดสอบความถนัด (Aptitude test) ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และวิศวกรรมศาสตร์
- การทดสอบความคิดและความสนใจทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และวิศวกรรมศาสตร์
3. A-Level
A-Level (Applied Knowledge Level) คือ การสอบวัดความรู้เชิงวิชาการ ที่ทาง ทปอ. กำหนดขอบเขตข้อสอบไว้แล้วว่าเนื้อหาจะอ้างอิงหลักสูตรแกนกลางของ สพฐ. ไม่ออกเกินจากหลักสูตรที่เรียนมาตั้งแต่ชั้น ม.4 – ม.6 แน่นอน โดยจะมีทั้งหมด 10 วิชา
แต่วิชาที่น้อง ๆ ที่อยากเข้าคณะวิทยาศาสตร์ต้องสอบ จะมีอยู่ 7 วิชา ดังนี้
- A-Level ชีววิทยา
- A-Level ฟิสิกส์
- A-Level เคมี
- A-Level คณิตศาสตร์ประยุกต์ 1
- A-Level ภาษาอังกฤษ
- A-Level ภาษาไทย
- A-Level สังคมศึกษา
อย่างไรก็ตาม แต่ละมหาวิทยาลัยอาจมีการกำหนดเกณฑ์คัดเลือกและสัดส่วนคะแนนที่แตกต่างกัน พี่วีวี่แนะนำให้น้อง ๆ ศึกษาข้อมูลรายละเอียดการรับสมัครล่าสุดอีกครั้ง เพื่อที่จะได้วางแผนการติวหนังสือสอบได้เหมาะสมกับคณะและมหาวิทยาลัยที่ตนเองอยากเข้ามากที่สุด
ติวสอบเข้าคณะวิทยาศาสตร์ กับ WE BY THE BRAIN
จบกันไปแล้วกับการแนะนำคณะวิทยาศาสตร์ จะเห็นได้ว่า คณะวิทยาศาสตร์มีสาขาวิชาให้เลือกเรียนหลากหลายมาก สามารถต่อยอดไปสู่เส้นทางอาชีพได้หลากหลายอุตสาหกรรม เช่น นักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ โปรแกรมเมอร์ นักวิเคราะห์ข้อมูล นักวิทยาศาสตร์การอาหาร หรือนักธรณีวิทยา นับเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่เหมาะสำหรับน้อง ๆ ที่ชอบทดลอง ชอบค้นคว้าหาคำตอบ หรืออยากเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ มาก
สำหรับน้อง ๆ คนไหนที่อยากได้เทคนิคทริกลัดเพิ่มเติม ต้องการติวเข้มก่อนสอบ A-Level, TGAT และ TPAT3 สามารถสมัครคอร์สติวเข้ามหาวิทยาลัย 68 กับ WE BY THE BRAIN ได้เลย พี่ ๆ ติวเตอร์ของเราพร้อมพาน้อง ๆ ไปตะลุยโจทย์ข้อสอบหลากหลายรูปแบบ เน้นสอนด้วยความเข้าใจ นำไปประยุกต์ใช้ได้จริง เรียนจบแล้วจะช่วยให้น้อง ๆ เก็บคะแนนสอบได้มากขึ้นอย่างแน่นอน!
อัปเดตข่าวสารและสอบถามรายละเอียดติวเข้ามหาวิทยาลัย 68 จาก WE BY THE BRAIN ได้ที่
- WE CARE : 02-952-6767
- Line OA : @weplus_care
- Facebook Page : WE BY THE BRAIN
- Instagram : webythebrain
- Twitter : @WEBYTHEBRAIN
- Youtube : WE BY THE BRAIN
โรงเรียนกวดวิชา วี บาย เดอะเบรน เรียนสนุก เข้าใจง่าย ทำโจทย์ได้จริง!