สวัสดีครับน้อง ๆ วันนี้พี่ภูมิจะพาไปวิเคราะห์เจาะลึกข้อสอบคณิตศาสตร์ 1 วิชาสามัญ ปีล่าสุดกัน ซึ่งข้อสอบปีนี้ดูเหมือนจะไม่มีอะไรเปลี่ยนไปมาก แต่ก็ยังมีบางอย่างที่เปลี่ยนไปอยู่
เริ่มตั้งแต่รูปแบบข้อสอบที่มีการปรับเปลี่ยนไป ทำให้การคิดคะแนนก็เปลี่ยนไปด้วย แต่คะแนนก็ยังเต็ม 100 เหมือนเดิม แล้วบทที่ออกมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปไหม ค่าเฉลี่ยเป็นอย่างไร แล้วน้อง ๆ ที่จะเตรียมสอบควรเตรียมตัวอย่างไรบ้าง วันนี้พี่จะบอกให้หมด มาเริ่มกันเลยครับ
รูปแบบข้อสอบ
สนามสอบวิชาสามัญจะต่างกับ PAT 1 อยู่นิดหน่อย ตั้งแต่รูปแบบข้อสอบ ที่ออกแค่ 30 ข้อ แบ่งออกเป็น 2 ตอน จากเดิมข้อสอบแบบเก่า ปี 63 ทั้งสองตอนจะเป็นปรนัย 5 ตัวเลือก โดยตอนที่ 1 มี 10 ข้อ และตอนที่ 2 จำนวน 20 ข้อ แต่สำหรับข้อสอบปีนี้ ในตอนที่ 1 ตัวเลือกมีทั้งหมด 25 ข้อ ข้อละ 3 คะแนนในตอนที่ 1 รวมกันก็จะเป็น 75 คะแนนแล้ว และในตอนที่ 2 จะเป็นข้อสอบแบบเติมคำอีก 5 ข้อ ข้อละ 5 คะแนน คิดเป็น 25 คะแนน รวมกัน 100 คะแนนเต็ม คือจะเปลี่ยนยังไงก็ 100 คะแนนเท่าเดิม
โดยเราจะมีเวลาในการทำข้อสอบ 90 นาที เท่ากับว่า 1 ข้อต้องใช้เวลาไม่เกิน 3 นาที ถึงจะทำข้อสอบได้ทันเวลา แสดงว่าทุก ๆ ครึ่งชั่วโมง เราควรทำได้ 10 ข้อเป็นอย่างน้อย ถ้าไม่ได้แสดงว่าช้าไป ถ้าได้เกิน 10 ข้อแสดงว่าเจ๋ง พอผ่านไปครบ 1 ชั่วโมง ต้องได้ 20 ข้อ ถ้าเกิดว่าเกินก็เจ๋ง ถ้าไม่ถึงก็ต้องรีบทำหน่อย แล้วมันจะไม่เกิดเหตุการณ์ที่เหลือข้อสอบเยอะแล้วทำไม่ทันอย่างแน่นอน
มาดูที่บทกันครับ ถ้าเป็นของคณิตศาสตร์ 1 วิชาสามัญในปีก่อน ๆ ก็จะมีบางบทที่มันไม่ออก แต่ปีที่ผ่านมาออกครบทุกบทแล้วนะครับ บทที่ไม่เคยออกมาก่อนอย่างพวกเซต ตรรกศาสตร์ ความสัมพันธ์และฟังก์ชัน 3 บทนี้เมื่อก่อนไม่เคยออกในคณิตศาสตร์ 1 วิชาสามัญ แต่ข้อสอบในปี 64 เรื่องเซตมา 1 ข้อ ตรรกศาสตร์ 2 ข้อ ความสัมพันธ์และฟังก์ชันอีก 1 ข้อ มันได้เพิ่มเข้ามาเรียบร้อยแล้วครับ ออกครบทุกบทที่เราได้เรียนกันเลยทีเดียว
ทีนี้ถ้าเรามาแบ่งเป็นระดับชั้น ม.4 ก็จะเริมตั้งแต่เรื่องเซตถึงฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียล และลอการิทึม ม.5 เริ่มตั้งแต่เมทริกซ์ จนถึงความน่าจะเป็น ถัดมา ม.6 เริ่มตั้งแต่ สถิติและการแจกแจงความน่าจะเป็นถึงแคลคูลัส จริง ๆ ก่อนหน้านี้เขาก็ประกาศใน Blueprint ว่าจะเปลี่ยนแนวคณิตศาสตร์ 1 โดยการเพิ่มบท ซึ่งเขาก็เพิ่มขึ้นจริง ๆ เรื่องที่เพิ่มขึ้นมา คือ เซต ตรรกศาสตร์ ความสัมพันธ์และฟังก์ชั่น นอกจากนี้ยังมี 1 บทที่หายไปคือทฤษฎีจำนวนครับ
เวลาเราพูดถึงทฤษฎีจำนวน ก็คิดถึงการหารลงตัว ห.ร.ม. ค.ร.น. ซึ่งบทนี้ในหลักสูตรใหม่ได้หายไปแล้ว ซึ่งพี่เสียดายมาก เพราะมันเป็นบทสำคัญ เป็นพื้นฐานสำคัญมาก แต่ในปีล่าสุดมันไม่ออกเลย ถ้าดูในปีก่อน ๆ ย้อนหลังไปถึงปี 61 บทนี้ออก 6 คะแนนเลยนะครับ ถ้ายึดตามอันนี้ปี 65 ก็อาจจะไม่มีอีกแล้ว เรื่องทฤษฎีจำนวนอะไรพวกนี้น้องก็ไม่ต้องทวนเยอะก็ได้ พี่คิดว่ามันไม่น่าจะผิดโผมาก แต่เอาจริง ๆ เดี๋ยวใกล้ ๆ มันจะมี Blueprint ประกาศให้น้อง ๆ ได้ทราบกันอีกครั้ง
จากตารางข้างบนจะเห็นว่าถ้าเราคำนวณคะแนนออกมา ม.4 มันจะอยู่ที่ 36 คะแนน ม.5 30 คะแนน และ ม.6 34 คะแนน พี่ไม่ได้บอกว่ามันเน้น ม.4 มากกว่านะครับ ถ้าเอาจริงๆ แล้วข้อสอบวิชาสามัญและ PAT1 มันกระจายครบทุกบทแน่นอน มันเกลี่ย ๆ กัน แต่อาจจะออกของ ม.4 มากกว่า 1-2 ข้อ เท่านั้นเอง
ถ้าน้องดูคะแนนแต่ละบท สถิติการแจกแจงความน่าจะเป็นออกเยอะสุดเลย เป็นแบบนี้มาทุกปี ห้ามพลาดเด็ดขาด ถัดมาคือบทแคลคูลัสจะออกมาทั้งหมด 11 คะแนน จาก 100 คะแนน ถือว่าเยอะมาก ถัดมาบทลำดับและอนุกรม อันนี้มาเป็นอันดับ 3 มี 9 คะแนน เท่ากับอันดับที่ 4 บทความน่าจะเป็น ส่วนอันดับที่ 5 คือฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียลและลอการิทึม อันดับที่ 6 คือตรรกศาสตร์
จะเห็นว่าเมื่อเทียบกับข้อสอบ PAT 1 แล้วนั้นบทที่คะแนนเยอะและออกทั้งสองสนาม อันดับที่ 1 เลยคือ สถิติและการแจกแจงความน่าจะเป็น อันดับ 2 คือบทแคลคูลัส อันดับ 3 คือความน่าจะเป็น และอันดับ 4 คือฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียลและลอการิทึม ถ้าใครกำลังเตรียมตัวสอบทั้ง 2 สนาม ห้ามพลาด 4 บทนี้เด็ดขาด
แนวข้อสอบคณิตศาตร์ 1 วิชาสามัญ
คราวนี้น้องคงอยากรู้ว่า คณิตศาสตร์ 1 วิชาสามัญ มันเปลี่ยนแนวเหมือน PAT 1 ไหม เพราะ PAT 1 เป็นแนวประยุกต์เยอะ พี่บอกเลยว่าปี 64 นี้ คณิต 1 วิชาสามัญไม่ได้เปลี่ยนแนวเหมือน PAT 1 ครับ ยังคงแนวเดิมไว้อยู่ มีโจทย์ประยุกต์เพิ่มมาแค่ข้อเดียว เพราะบทนั้นมันไม่ค่อยออกแบบนี้ แต่ปีนี้ดันออกมาเป็นโจทย์ปัญหา พี่ก็เลยนับว่าเป็น 1 ข้อที่เพิ่มขึ้นมา เพราะฉะนั้นสรุปว่าคณิตศาสตร์ 1 ยังเหมือนเดิม
ตัวอย่างข้อสอบจริง คณิตศาสตร์ 1 วิชาสามัญ 64
สถิติคะแนนของคณิศาสตร์ 1 วิชาสามัญ ปี 63 - 64
ค่าเฉลี่ยถ้าดูจากปี 63 มันจะอยู่ที่ 27.33 แต่ถ้าเทียบกับปี 64 เหลือแค่ 19.98 มันก็อาจจะพูดได้ว่าข้อสอบมีแนวโน้มยากขึ้น หรือเป็นอีกกรณีหนึ่ง คือปี 63 ไม่มีเติมคำตอบ ตอนที่สองของข้อสอบเป็นตัวเลือกหมด คนที่ทำไม่ได้แล้วมั่วไปก็ยังมีโอกาสถูก แต่พอปี 64 เป็นแบบเติมคำตอบ คนที่ทำไม่ได้ก็มั่วไม่ได้แล้ว เลยมีส่วนให้คะแนนเฉลี่ยมันต่ำลง
ค่าเฉลี่ยถ้าดูจากปี 63 มันจะอยู่ที่ 27.33 แต่ถ้าเทียบกับปี 64 เหลือแค่ 19.98 มันก็อาจจะพูดได้ว่าข้อสอบมีแนวโน้มยากขึ้น หรือเป็นอีกกรณีหนึ่ง คือปี 63 ไม่มีเติมคำตอบ ตอนที่สองของข้อสอบเป็นตัวเลือกหมด คนที่ทำไม่ได้แล้วมั่วไปก็ยังมีโอกาสถูก แต่พอปี 64 เป็นแบบเติมคำตอบ คนที่ทำไม่ได้ก็มั่วไม่ได้แล้ว เลยมีส่วนให้คะแนนเฉลี่ยมันต่ำลง
ทีนี้เรามาดูช่วงคะแนนแบบคร่าว ๆ กันครับ พอข้อสอบมันยากขึ้นเราก็จะเห็นว่าทิศทางของคะแนนมันต่ำลง คะแนนจะกองอยู่ในช่วง 20.01 – 30 คะแนนเป็นส่วนใหญ่ พอปี 64 คะแนนจะมากองอยู่ที่ 10.01 – 20 คะแนนครับ แต่พี่ภูมิเชื่อว่าถ้าน้องเตรียมตัวพร้อมตั้งแต่เนิ่น ๆ มีเป้าหมายและวางแบบไว้ชัดเจน น้องจะอยู่ในช่วงคะแนนมากกว่า 70 คะแนนได้ไม่ยากแน่นอน
สุดท้ายสำหรับน้อง ๆ #dek65 #dek66 การเตรียมตัวดี เตรียมตัวให้พร้อม คือจุดเริ่มต้นของความสำเร็จเสมอ คำถามที่สำคัญที่สุดคือน้องต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อน คือเป้าหมายหรือคณะที่เราอยากเข้าว่าคือคณะอะไร เพราะการเปลี่ยนใจหรือลังเลใจอาจทำให้วิชาที่เราต้องเตรียมตัวนั้นเปลี่ยนไปด้วย และเมื่อเป้าหมายชัดเจนแล้วเราก็ไปลุยกันเลยครับ
จบไปแล้วนะครับสำหรับคณิตศาสตร์ 1 วิชาสามัญ และสำหรับใครที่อยากรู้อะไรเชิงลึกเกี่ยวกับการสอบ TCAS 65 หรือมีคำถามพิเศษก็ถามมาได้ผ่าน Q&A Planning Zoom พี่ๆ และทีมงานยินดีมากที่จะช่วยไขข้อข้องใจให้น้อง ๆ ครับ
อ่านบทความเพิ่มเติม