สวัสดีค่ะน้องๆ หลังจากที่ทาง กสพท. ประกาศผลคะแนนการสอบ 9 วิชาสามัญออกมาแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายสำหรับเส้นทางของการสอบตรงมุ่งสู่คณะแพทยศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ และใหม่ล่าสุดอย่าง สัตวแพทยศาสตร์ อย่างไรก็ตามอย่าลืมเช็คคะแนน O-NET ในวันที่ 21 มีนาคม นี้นะเพราะถ้าภาพรวมออกมาไม่ถึง 60% ก็ฝันสลายได้เหมือนกัน
เข้าเรื่องดีกว่า … ระหว่างที่น้องต้องรอวันชี้ชะตาอยู่ คงไม่มีใครทนอยู่เฉยได้แน่นอน เพราะต่างคนต่างก็อยากรู้โอกาสที่จะสอบผ่านการรับตรงของ กสพท. ว่า 4 อันดับที่เราเลือกไปนั้น จะติด หรือ ไม่ติด
ดังนั้นไม่ต้องคาดการณ์หรือเดา ขอแค่หยิบปากกา กระดาษ และคะแนนสอบ แล้วมาทำนายกันเลย
ขั้นแรกเริ่มต้นที่การเช็คหรือเปรียบเทียบคะแนนย้อนหลัง โดยในตัวอย่างนี้พี่ได้จัดรูปแบบตารางโดยมีส่วนสำคัญคือ คะแนนสอบความถนัดแพทย์ ซึ่งมีสัดส่วน 30% และ คะแนนการสอบ 9 วิชาสามัญ อีก 70 % ที่ใช้เป็นเกณฑ์พิจารณาของ กสพท.
เห็นตัวเลขแล้วอย่าเพิ่งดีใจไปนะคะ เพราะทำเกินค่าเฉลี่ย ไม่ได้หมายความถึงการสอบติด กสพท. (หลายคนอาจกำลังดีใจเก้อ) เพราะฉะนั้นยังมีสิ่งที่เราต้องตามดูกันต่อ
ขั้นตอนต่อมาที่สำคัญสุดๆ คือการคำนวนคะแนนของตัวเราเอง … และเพื่อความเข้าใจยิ่งขึ้น พี่ขอยกตัวอย่างคะแนนสอบของ เจมส์จิ ซึ่งเลือก แพทย์ จุฬา, แพทย์ศิริราช มหิดล, แพทย์รามา มหิดล และ แพทย์ มช. ในอันดับที่ 1-4 ตามลำดับ (มีใครเลือกไว้ตามนี้บ้างป่ะ 555+) ที่นี้มาดูการคำนวณกันค่ะ
เริ่มต้นที่การคำนวนคะแนน 7 วิชาที่ใช้จาก 9 วิชาสามัญ ให้น้องนำคะแนนดิบที่ได้คูณด้วยสัดส่วนที่ กสพท. กำหนด … จากตัวอย่าง เจมส์จิ ได้นำคะแนนดิบทั้ง 7 วิชา คูณด้วยสัดส่วน และนำคะแนนตามสัดส่วนทั้งหมดมารวมกัน ปรากฏว่า เจมส์จิ เก็บคะแนนจาก 7 วิชาสามัญ ไป 49.8 คะแนน … โอ้โห
จากนั้นดูที่ความถนัดแพทย์ซึ่งมีคะแนนเต็ม 300 คะแนน สัดส่วน 30% โดย เจมส์จิ ได้คะแนนดิบจากส่วนนี้ 205 คะแนน ให้เอาไปหารด้วย 10 (มาจาก สัดส่วน 30% หารด้วย คะแนนเต็ม 300 คะแนน) ก็ได้ออกมา 20.5 คะแนน ถือว่า เจมส์จิ ได้เปรียบคู่แข่งอย่างมาก เพราะค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 15.76 เท่านั้นเอง
และเมื่อนำคะแนนทั้ง 2 ส่วน คือ คะแนน 7 วิชาสามัญ ที่ได้ 49.8 รวมกับ คะแนนความถนัดแพทย์
ซึ่งได้ 20.5 ก็จะคิดออกเป็น 49.8 + 20.5 = 70.3 … ต้องบอกเลยว่า เจมส์จิ หล่อเลยทีเดียว
โดยขั้นตอนต่อไป เจมส์จิ จะต้องไปเช็คคะแนนต่ำสุดและอันดับคณะของปีที่ผ่านมา เพื่อ … ??? ตามไปดูกันต่อนะคะ
ตารางข้างบนคือการจัดคณะ 10 อันดับแรก ที่เรียงตามคะแนนต่ำสุดของปี 58 และพ่วงด้วย คะแนนต่ำสุดและอันดับของปี 57 ด้วย … และเราจะเห็นว่าบางคณะมีการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนพอสมควร
ขั้นตอนนี้ เจมส์จิ ต้องบูรณาการข้อมูลที่มีกับความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้น … โดยเรียงลำดับดังนี้
- เอาคะแนน 70.3 คะแนน เทียบกับช่องคะแนนต่ำสุด ซึ่ง เจมส์จิ แค่เกือบจะติด แพทย์ จุฬาฯ ส่วนที่เหลือคะแนนถึงหมดเลย
- แต่แนวโน้มคะแนนความถนัดแพทย์ และ คะแนนสอบกสพท. เฉลี่ยรวม 100% ของปี 59 ต่ำลงจากปี 58 ซึ่งเป็นไปได้ว่า คะแนนแพทย์ จุฬาฯ ในปีนี้อาจลดลงมา … คือ เจมส์จิ ยังมีลุ้นค่ะ เฮ!!!
- จากข้อมูลทั้งหมด เจมส์จิ สามารถทำนายโอกาสสอบติดแพทย์จาก 4 อันดับ ได้ตามนี้
แพทย์ จุฬา ⇒ ลุ้นหนัก แต่หวังได้อยู่
แพทย์ศิริราช มหิดล ⇒ เผื่อใจไว้นิดนึง
แพทย์รามา มหิดล ⇒ ก้าวเท้าเข้าไปแล้ว 1 ข้าง
แพทย์ มช. ⇒ แม่ เจมส์จิ ซื้อชุดรอแล้ว
จากการวิเคราะห์ตรงนี้ เจมส์จิ เป็นว่าที่นักศึกษาแพทย์เรียบร้อยแล้ว แต่สำหรับน้องที่มีคะแนนสูสีกับคำแนนขั้นต่ำของคณะที่เลือกอันดับไว้ ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องระวังและควรนำมาคำนึงถึง คือ การเพิ่ม-ลด จำนวนการเปิดรับ … และพี่วีวี่ ก็มีข้อมูลมาฝากค่ะ
จะเห็นได้ว่า แพทย์วชิร ม.นวมินทราธิราช และ ทันตะฯ ม.สงขลา รับลดลงถึง 10 อัตรา โดยเฉพาะคณะหลังเดิมทีก็รับน้อยอยู่แล้ว เท่ากับเป็นการเพิ่มอัตราแข่งขันที่เข้มข้นขึ้น ซึ่งผลพวงที่อาจจะตามมา คือคะแนนขั้นต่ำอาจจะสูงขึ้นได้เช่นกัน คนที่เลือกคณะเหล่านี้ไว้ในอันดับของตัวเองต้องระวังไว้ให้ดี
ทำตามขั้นตอนเหล่านี้กันเสร็จเรียบร้อยแล้ว พี่ก็เชื่อนะคะว่า น้องจะเริ่มเห็นเค้าโครงอนาคตของตัวเองกันแล้วว่า จะติดหรือไม่ติด แพทย์ – ทันตะ กสพท ปี 59 หรือรู้แม้กระทั่งน่าจะติดอันดับที่เท่าไหร่ ส่วนคณะสัตวแพทยศาสตร์ที่ยังไม่ข้อมูล พี่วีวี่ต้องขออภัยด้วยนะคะ อย่างไรก็ตามขออวยพรให้น้องทุกคน
โชคดีมีชัย … ส่วนใครที่คะแนนไม่ถึงแน่นอนอย่าเพิ่งถอดใจ ยังมีสนามแอดมิชชั่น รอน้องอยู่
ปล. อย่าลืมติดตามเงื่อนไขสำคัญ และความเคลื่อนไหวต่างๆ ทางเว็บของ กสพท. กันด้วยนะคะ