ภาษาไทย ม.ต้น VS ภาษาไทย ม.ปลาย ต่างกันอย่างไร? ใครตอบได้บ้าง?
พอพูดถึง วิชาภาษาไทย หลายคนคงรู้สึกคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว เพราะภาษาไทยเป็นวิชาพื้นฐานที่น้อง ๆ จำเป็นต้องเรียนในทุกระดับชั้น ตั้งแต่อนุบาลจนถึงอุดมศึกษา เรียกได้ว่า เรียนตั้งแต่ท่อง กอ ไก่ ขอ ไข่ จนถึงสอบเข้ามหาวิทยาลัยกันเลยทีเดียว
แม้ว่าเนื้อหาวิชาภาษาไทยในช่วงประถมจนถึงมัธยมปลายต่างก็ต้องเรียน 5 สาระสำคัญ นั่นคือ การอ่าน / การเขียน / การฟัง การดู และการพูด / หลักการใช้ภาษา / วรรณคดีและวรรณกรรม เป็นหลัก แต่ก็ยังมีความแตกต่างกันตรงรายละเอียดของเนื้อหา วงศัพท์ สำนวน รวมถึงระดับความยากและซับซ้อนของหลักเกณฑ์ทางภาษาที่เรียนในแต่ละระดับชั้น
วันนี้ “พี่ยู” ขอพาน้อง ๆ มาเจาะเนื้อหา ภาษาไทย ม.ต้น VS ภาษาไทย ม.ปลาย ว่าเรียนเรื่องอะไรบ้าง? เหมือนหรือต่างกันอย่างไร? พร้อมนำเทคนิคเก่งภาษาไทยที่นำไปปรับใช้ได้ทุกระดับชั้นมาฝากกันด้วย 😍
เลือกอ่านหัวข้อที่สนใจเลย!
ภาษาไทย ม.ต้น VS ภาษาไทย ม.ปลาย เรียนอะไรบ้าง? ต่างกันอย่างไร?
เปรียบเทียบเนื้อหาภาษาไทย ม.ต้น VS ภาษาไทย ม.ปลาย : สาระการอ่าน
ภาษาไทย ม.ต้น : สาระการอ่าน
- อ่านออกเสียงคำศัพท์ / ร้อยแก้ว / ร้อยกรอง
- อ่านจับใจความ
- อ่านตีความ
- อ่านวิเคราะห์เหตุผล / ข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็น
- อ่านวิเคราะห์คุณค่าที่ได้รับจากงานเขียนประเภทต่าง ๆ
ภาษาไทย ม.ปลาย : สาระการอ่าน
- อ่านออกเสียงบทร้อยแก้ว / ร้อยกรอง
- อ่านแปลความ ตีความ และขยายความเรื่องที่อ่าน*
- อ่านวิเคราะห์ วิจารณ์ แสดงความคิดเห็นโต้แย้ง*
- อ่านคาดคะเนเหตุการณ์และประเมินค่าเพื่อนำไปประยุกต์ใช้*
(* บทอ่านทั้งงานเขียนร้อยแก้วและร้อยกรอง) - มารยาทในการอ่าน
เปรียบเทียบเนื้อหาภาษาไทย ม.ต้น VS ภาษาไทย ม.ปลาย : สาระการเขียน
ภาษาไทย ม.ต้น : สาระการเขียน
- เขียนบรรยาย / พรรณนา
- เขียนเรียงความ
- เขียนย่อความ
- เขียนรายงานวิชาการ
- เขียนแสดงความคิดเห็น
- เขียนแผนภาพความคิด
- เขียนสื่อสารตรงตามจุดประสงค์
ภาษาไทย ม.ปลาย : สาระการเขียน
- เขียนเรียงความ
- เขียนย่อความจากสื่อที่หลากหลากหลาย
- เขียนรายงานวิชาการ
- มารยาทในการเขียน
เปรียบเทียบเนื้อหาภาษาไทย ม.ต้น VS ภาษาไทย ม.ปลาย : สาระการฟัง การดู และการพูด
ภาษาไทย ม.ต้น : สาระการฟัง การดู และการพูด
- สรุปประเด็นหรือสาระสำคัญจากเรื่องที่ฟัง
- วิเคราะห์ข้อคิดเห็น ข้อเท็จจริง และจุดประสงค์ของเรื่องที่ฟังและดู
- การใช้ถ้อยคำภาษา น้ำเสียง กิริยาท่าทางในการพูดได้อย่างเหมาะสม
- การฟัง การดู อย่างมีวิจารณญาณ
- การพูดในโอกาสต่าง ๆ ได้เหมาะสม
ภาษาไทย ม.ปลาย : สาระการฟัง การดู และการพูด
- สรุปแนวคิดและแสดงความคิดเห็นจากเรื่องที่ฟังและดู
- วิเคราะห์แนวคิด การใช้ภาษา ความน่าเชื่อถือจากเรื่องที่ฟังและดู
- วิจารณญาณในการฟังและดู
- พูดในโอกาสต่าง ๆ
- พูดแสดงทรรศนะ
- พูดโต้แย้ง
- พูดโน้มน้าวใจ
- มารยาทในการฟัง การดู และการพูด
เปรียบเทียบเนื้อหาภาษาไทย ม.ต้น VS ภาษาไทย ม.ปลาย : สาระหลักการใช้ภาษา
ภาษาไทย ม.ต้น : สาระหลักการใช้ภาษา
- ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับภาษาและธรรมชาติของภาษา
- เสียงในภาษาไทยและโครงสร้างพยางค์
- ชนิดและหน้าที่ของคำในภาษาไทย
- การสร้างคำตามหลักเกณฑ์ของภาษา
- คำไทยแท้และคำยืม
- ภาษาไทยถิ่นต่าง ๆคำและความหมายแบบต่าง ๆ
- ถ้อยคำสำนวน
- ระดับภาษา
- ราชาศัพท์
- ประโยค
- การแต่งร้อยกรองประเภท กลอน กาพย์ โคลง
ภาษาไทย ม.ปลาย : สาระหลักการใช้ภาษา
- ธรรมชาติและการเปลี่ยนแปลงของภาษา
- พันธกิจของภาษา
- พลังของภาษา
- ส่วนประกอบของภาษาระดับต่าง ๆ (เสียง / คำ / ประโยค)
- การสร้างคำ
- อิทธิพลของภาษาต่างประเทศในภาษาไทย
- โครงสร้างประโยค
- การใช้ถ้อยคำและสำนวน
- ระดับภาษา
- ราชาศัพท์
- การแต่งบทร้อยกรองประเภทโคลง ฉันท์ ร่าย
เปรียบเทียบเนื้อหาภาษาไทย ม.ต้น VS ภาษาไทย ม.ปลาย : สาระวรรณคดีและวรรณกรรม
ภาษาไทย ม.ต้น : สาระวรรณคดีและวรรณกรรม
- การวิเคราะห์คุณค่าด้านภาษา / ศิลปะการประพันธ์
- การวิเคราะห์คุณค่าด้านวัฒนธรรม / ความรู้ / ความเชื่อ
- การวิเคราะห์คุณค่าด้านข้อคิด คติธรรม
- การวิเคราะห์คุณค่าด้านอารมณ์
รายชื่อวรรณคดี / วรรณกรรม – ภาษาไทย ม.ต้น
วรรณคดี / วรรณกรรม (หนังสือเรียนกระทรวงศึกษาธิการ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551) ที่จะได้เรียนในเนื้อหาภาษาไทย ระดับชั้น ม.ต้น ได้แก่
ระดับชั้น ม. 1
- นิราศภูเขาทอง
- โคลงโลกนิติ
- สุภาษิตพระร่วง
- กาพย์เรื่องพระไชยสุริยา
- ราชาธิราช
- กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน
- นิทานพื้นบ้าน
ระดับชั้น ม.2
- โคลงภาพพระราชพงศาวดาร
- บทเสภาสามัคคีเสวก ตอน วิศวกรรมาและสามัคคีเสวก
- ศิลาจารึกหลักที่ 1
- บทละครเรื่องรามเกียรติ์ ตอน นารายณ์ปราบนนทก
- กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง
- โคลงสุภาษิต พระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
- กลอนดอกสร้อยรำพึงในป่าช้า
ระดับชั้น ม.3
- บทละครพูดเรื่อง เห็นแก่ลูก
- พระอภัยมณี ตอน พระอภัยมณีหนีนางผีเสื้อสมุทร
- พระบรมราโชวาทพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
- อิศรญาณภาษิต
- บทพากย์เอราวัณ
ภาษาไทย ม.ปลาย : สาระวรรณคดีและวรรณกรรม
- การวิเคราะห์คุณค่าด้านภาษา / ศิลปะการประพันธ์
- การวิเคราะห์คุณค่าด้านวัฒนธรรม / ความรู้ / ความเชื่อ
- การวิเคราะห์คุณค่าด้านข้อคิด คติธรรม
- การวิเคราะห์คุณค่าด้านอารมณ์
รายชื่อวรรณคดี / วรรณกรรม – ภาษาไทย ม.ปลาย
ส่วนวรรณคดี / วรรณกรรม (หนังสือเรียนกระทรวงศึกษาธิการ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551) ที่จะได้เรียนในเนื้อหาภาษาไทย ระดับชั้น ม.ปลาย ได้แก่
ระดับชั้น ม.4
- บทนมัสการมาตาปิตุคุณและนมัสการอาจาริยคุณ
- อิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิง
- นิทานเวตาลเรื่องที่ 10
- นิราศนรินทร์คำโคลง
- หัวใจชายหนุ่ม
- ทุกข์ของชาวนาในบทกวี
- มงคลสูตรคำฉันท์
- มหาชาติหรือมหาเวสสันดรชาดก
ระดับชั้น ม.5
- มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี
- ลิลิตตะเลงพ่าย
- บทละครพูดคำฉันท์เรื่องมัทนะพาธา
- คัมภีร์ฉันทศาสตร์ แพทย์ศาสตร์สงเคราะห์
- โคลนติดล้อ ตอน ความนิยมเป็นเสมียน
ระดับชั้น ม.6
- เสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน ตอน ขุนช้างถวายฎีกา
- สามก๊ก ตอน กวนอูไปรับราชการกับโจโฉ
- กาพย์เห่เรือ
- สามัคคีเภทคำฉันท์
- ไตรภูมิพระร่วง ตอน มนุสสภูมิ
- ขัตติยพันธกรณี
ความสำคัญของ “ภาษาไทย” ทำไมต้องเรียนทุกระดับชั้น?
น้อง ๆ ที่สงสัยว่าภาษาไทยสำคัญอย่างไร? ทำไมเราถึงต้องเรียนวิชาภาษาไทยทุกระดับชั้น ตั้งแต่ระดับอนุบาล / ประถม / ม.ต้น / ม.ปลาย จนถึงมหาวิทยาลัย ตามความเห็นของพี่ยู ขอสรุปความสำคัญของ “การเรียนภาษาไทย” ใน 3 มิติ ดังนี้
1. มิติที่ผู้เรียนไม่ได้เป็นผู้กำหนดเลือกหรือสมัครใจตามความชอบตั้งแต่ต้น
หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน กำหนดให้ภาษาไทยเป็น 1 ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ที่ “ต้อง” เรียนและมีการวัดตลอดจนการประเมินผลการเรียนรู้ตามตัวชี้วัดต่าง ๆ
แล้วไม่ใช่เพียงวิชาภาษาไทย ยังมีอีกหลายวิชาที่กำหนดไว้ในหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน เช่น คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาต่างประเทศ สุขศึกษาและพลศึกษา ฯลฯ
การกำหนดไว้เป็น “หลักสูตรพื้นฐาน” ซึ่งมีหลายกลุ่มสาระการเรียนรู้ (หลายวิชา) มีการวัดและประเมินผล จุดมุ่งหมายที่เป็นไปได้ยากมาก คือ ความต้องการให้ผู้เรียนทุกคนเกิดความเป็นเลิศในทุกกลุ่มสาระหรือทุกวิชา
ส่วนสิ่งที่น่าจะเป็นหัวใจหลักและเป็นจุดมุ่งหมายที่เป็นไปได้มากกว่าก็คือ เพื่อให้ผู้เรียนได้มีโอกาสพัฒนาตัวเองในกลุ่มสาระนั้น ๆ และเห็นผลการประเมินว่า กลุ่มสาระใดหรือวิชาใด เป็นเนื้อหาที่ตัวเองชื่นชอบหรือถนัดเพราะสนใจเป็นพิเศษบ้าง
ดีที่สุดหากผู้เรียนค้นพบความชอบหรือความสนใจเป็นพิเศษได้ หรือในทางกลับกัน อาจค้นพบว่ายังไม่มีกลุ่มสาระหรือวิชาใดที่ชื่นชอบหรือสนใจเป็นพิเศษ เพราะอาจมีทักษะความรู้นอกเหนือจากหลักสูตรที่ผู้เรียนสนใจ และอยากพัฒนาศักยภาพของตัวเองมากกว่า ก็จะได้เข้าใจและพัฒนาตัวเองได้อย่างมีความสุข
นอกจากนั้นแล้ว การกำหนดให้วิชา “ภาษาไทย” เป็นหนึ่งในกลุ่มสาระการเรียนรู้ขั้นพื้นฐาน ไม่ว่าจะภาษาไทยระดับประถม ภาษาไทย ม.ต้น หรือภาษาไทย ม.ปลาย ยังเพื่อเป็นหนึ่งในตัวเลือกแกมบังคับว่า ผู้เรียนที่ใช้ภาษาไทยเป็นภาษาแม่ จำเป็นต้องมีพัฒนาการด้านการอ่านออกเขียนได้ในขั้นพื้นฐานระดับใด ต้องเพิ่มเติมความลุ่มลึกหรือความสุนทรีย์ทางการใช้หรือการวิเคราะห์วิพากษ์ภาษาขั้นสูงอย่างไรได้อีกต่อไป เช่น
- สมควรเรียนรู้หลักภาษาที่สามารถอธิบายปรากฏการณ์ทางภาษาไทยได้อย่างผู้ที่รู้ระบบของภาษาที่ตัวเองใช้อยู่
- สมควรเรียนรู้มุมมองอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับภาษาและการใช้ภาษา เช่น มารยาทในการสื่อสารทั้งในฐานะผู้รับสารและผู้ส่งสาร / การใช้ภาษาไทยในบริบทวัฒนธรรมไทยและบริบทที่เป็นสากล / บทอ่านเสริมทักษะการคิดตลอดจนวรรณคดีหรือวรรณกรรมที่เน้นการวิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์ อย่างมีวิจารณญาณในฐานะผู้ใช้ภาษาไทยในวัฒนธรรมไทยเพื่อนำไปสู่ความเข้าใจในบริบทความเข้าใจต่อวัฒนธรรมอื่น ๆ
2. มิติที่ผู้เรียนเป็นผู้กำหนดเลือกหรือสมัครใจตามความชอบได้
พี่ยูมองว่าความสนใจชื่นชอบหรือความถนัดของผู้เรียน มีความแตกต่างกันทั้งในแง่ความหลากหลายและระดับความสนใจต่อเรื่องเดียวกัน
อย่างน้อง ๆ ที่ชื่นชอบภาษาไทย มีพรสวรรค์ มีความถนัด มีความสนใจใคร่รู้เป็นพิเศษเกี่ยวกับภาษาไทย เมื่อมีโอกาสได้เรียนถึงแม้จะไม่ได้มีโอกาสได้เลือกเรียนตั้งแต่ต้น แต่ก็จะได้มีโอกาสเห็นตัวเลือก วิชาที่อาจจะชอบหรือถนัดซึ่งจะสามารถพัฒนาและได้พิสูจน์ผลแห่งความสนใจใคร่รู้นั้นได้อย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกันกับวิชาอื่น ๆ
เท่ากับว่า การกำหนดให้วิชาภาษาไทยเป็นหนึ่งในวิชาเรียนของหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานที่ผู้เรียนไม่ได้เลือกหรือไม่ได้กำหนดเองตั้งแต่ต้น เป็นการเปิดโอกาสให้มีตัวเลือกมาอยู่ในความสนใจของน้อง ๆ บ้างแบบไม่ให้เคว้งคว้าง
ในที่สุดแล้ว ถ้าหนึ่งในตัวเลือกที่เสนอมานั้นตรงกับความสนใจหรือ ความถนัดของเรา โอกาสที่ดีที่สุดก็คือจะเกิดการต่อยอดให้ดีขึ้น เห็นพัฒนาการ อาจงอกงามจนฉายแสงความเป็นเลิศได้ในระดับที่สูงขึ้น เช่น สนใจศึกษาต่อคณะอักษรศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ หรือคณะอื่น ๆ ที่มุ่งพัฒนาศักยภาพหรือผลิตบัณฑิตให้เชี่ยวชาญด้านภาษาไทย
3. มิติที่ผู้เรียนที่ใช้ภาษาไทยเป็นภาษาแม่ไม่อาจปฏิเสธความสำคัญได้
ตราบใดที่ผู้ใช้ภาษาไทยยังคงต้อง ฟัง พูด อ่าน เขียน และแม้กระทั่งคิดเงียบ ๆ ด้วยตัวเอง ยังคงต้องใช้ภาษาไทย คิด สื่อสาร สร้างสรรค์ งานหรือกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน การเรียนรู้ “ภาษาไทย” ก็คงยังเป็นสิ่งสำคัญแบบหลีกเลี่ยงได้ยากหรือไม่ควรปฏิเสธ
ผู้เรียนคนไทยที่ใช้ภาษาไทยเป็นภาษาแม่ ย่อมสมควรได้รับการพัฒนาศักยภาพด้านภาษาไทยขั้นพื้นฐานคือ อ่านออก เขียนได้ เสียก่อน
แต่ทั้งนี้การอ่านออกเขียนได้ อาจไม่เพียงพอสำหรับการสร้างสรรค์หรือต่อยอดต่ออาชีพหรือความสุนทรีย์ทางวัฒนธรรม เมื่อเรื่องเหล่านั้นต้องการความสามารถทางภาษาไทยที่สูงขึ้น เช่น อธิบายปรากฏการณ์ทางภาษาของตัวเองให้ตัวเองหรือผู้อื่นเข้าใจได้ แต่งคำประพันธ์หรือเรียบเรียงงานเขียนที่ใช้ภาษาเชิงวรรณศิลป์หรือกระทบอารมณ์ความรู้สึกจนเป็นพื้นฐานสู่งานเขียนระดับที่สมควรแก่ประเภทรางวัลต่าง ๆ ได้
รวมถึงงานหรืออาชีพในยุคเทคโนโลยีที่ต้องอาศัยความรู้เชิงลึกทางด้านระบบเสียง ระบบคำ ระบบวากยสัมพันธ์ ล้วนต้องใช้ความรู้ขั้นสูงทางด้านภาษาไทยหรือภาษาศาสตร์ด้วย
นอกจากนี้ พี่ยูมองว่า ภาษาใด ๆ รวมถึงภาษาไทย เป็นการเรียนรู้ทั้งแบบสั่งสมความรู้ ทฤษฎี หลักการ และเป็นการเรียนรู้แบบฝึกฝนทักษะเพื่อความชำนาญไปพร้อม ๆ กัน อย่างแยกจากกันไม่ได้
ดังนั้น งานที่ต้องอาศัยความรู้หรือแนวคิดทฤษฎีที่ถูกต้องแม่นยำ งานที่ต้องอาศัยการสั่งสมประสบการณ์หรือทักษะมาอย่างต่อเนื่องที่มากกว่าเพียงอ่านออกเขียนได้ งานเหล่านี้ย่อมมีความจำเป็นแบบที่ต้องเปิดใจยอมรับความจริงให้ได้ว่า ถ้าต้องการต่อยอดความสามารถทางภาษาไทยให้เปี่ยมคุณภาพ ก็ไม่ควรฝึกฝนหรือเรียนรู้ให้ขาดตอน ทั้งในระดับการใช้ภาษาเพื่อสื่อสารหรือเอาตัวรอดและในระดับของการสร้างสรรค์หรือความเป็นเลิศตามกำลังความสามารถของตนเองอย่างไม่ดูดาย
เทคนิคการเรียนภาษาไทย ทำตามง่าย ปรับใช้ได้ทุกระดับชั้น By พี่ยู
สำหรับน้อง ๆ ที่อยากจะได้ เทคนิคเรียนภาษาไทย ที่ปรับใช้ได้ทุกระดับชั้น ทั้งการเรียนภาษาไทย ม.ต้น และภาษาไทย ม.ปลาย แนะนำให้ลองทำตามเทคนิคง่าย ๆ ของพี่ยูได้เลย!!
- สะสมคลังศัพท์ สำนวน ให้ได้มากที่สุด และไม่ทิ้งความถูกต้องในแง่ความหมายและการนำไปใช้
- ทำความเข้าใจแนวคิด หลักการทางภาษาให้แม่นยำ นำมาสังเกตภาษาที่ใช้ทั้งที่มีในข้อสอบและที่ใช้จริงในชีวิตประจำวันอยู่เสมอ ๆ
- สะสมข้อมูลและฝึกฝนการนำไปใช้จริงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นหัวใจของการเรียนทุกภาษารวมทั้งภาษาไทยด้วย
พี่ยูขอบอกเลยว่า การใช้ภาษาไทยได้ดี ไม่ได้วัดหรือสังเกตได้เพียงแค่ทำข้อสอบภาษาไทยได้คะแนนมากหรือ Top กลุ่ม แต่ศักยภาพหรือคุณภาพด้านการพูด ฟัง อ่าน เขียน ที่แสดงออกว่า ใช้ภาษาไทยได้ดีหรือได้เลิศ คือ ใช้ภาษาได้ถูกต้อง คล่องแคล่ว เหมาะสมกับสถานการณ์และบริบทการสื่อสาร บรรลุผลการใช้ภาษาตามวัตถุประสงค์ มีวิจารณญาณต่อการใช้ภาษาและสามารถวิเคราะห์วิจารณ์ภาษาอย่างมีเหตุผลไม่ขัดต่อหลักเกณฑ์ที่สำคัญหรือปรากฏการณ์ที่แท้จริงของภาษา
นอกจากนี้ หากรู้จักพิถีพิถันในการเลือกใช้ถ้อยคำให้ถูกต้อง เกิดปัญหาในการสื่อสารน้อยที่สุด ตลอดจนสามารถใช้ภาษาเป็นเครื่องมือหรือวัตถุดิบเพื่อสร้างความความสุนทรีย์หรือมีพลังในการสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ ให้ประจักษ์และเป็นที่ยอมรับได้ ผู้ใช้ภาษาไทยผู้นั้นก็จะยิ่งมีความสุข เข้าถึงคุณค่าของการเรียนรู้และการใช้งานภาษา นั่นหมายถึงการเข้าถึงจุดสูงสุดแห่งการพัฒนาศักยภาพทางภาษาที่เป็นรูปธรรม
ใครก็ตามที่อ่านมาจนถึงตรงนี้แล้ว พี่ยูมั่นใจว่า คงต้องเกิดความเข้าใจเกี่ยวกับความแตกต่างของเนื้อหาภาษาไทย ม.ต้น และ ภาษาไทย ม.ปลาย ความหวังที่มากกว่านั้นก็คือ คงได้เห็นมุมมองเกี่ยวกับคุณค่าของการเรียนภาษาไทย การพัฒนาทักษะด้านภาษา และการนำภาษาไปใช้ให้เกิดประโยชน์ มากขึ้นกว่าเดิม
หากน้องคนไหนอยากเรียนภาษาไทยให้สนุก เข้าใจ ก็มาเจอกับพี่ยูใน คอร์สเรียนพิเศษภาษาไทย ที่ WE BY THE BRAIN ได้เลย เพราะมีคอร์สภาษาไทยให้เลือกเรียนครบทั้ง คอร์สภาษาไทย สอบเข้า ม.1, คอร์สภาษาไทย ม.ต้น, คอร์สภาษาไทย สอบเข้าเตรียมอุดมฯ, คอร์สภาษาไทย ม.ปลาย และ คอร์สภาษาไทย A-Level
แต่ละคอร์สล้วนอัดแน่นเนื้อหาภาษาไทยแบบละเอียด เข้มข้น ครอบคลุมประเด็นที่จำเป็นต้องรู้ ต้องใช้ ได้เปิดประสบการณ์ฝึกทำโจทย์จากข้อสอบหลายสนาม พร้อมเสริมเทคนิคการเรียนภาษาไทย Harmonic Memo สรุปจำเป็นทำนอง สนุกท่องเป็นจังหวะ สไตล์เฉพาะของพี่ยู เหมาะสำหรับน้อง ๆ ที่ต้องการเปล่งแสงภาษาไทย เพิ่มเกรดในโรงเรียน และเตรียมความพร้อมก่อนลงสนามสอบสำคัญ ๆ อย่างมั่นใจ เก่งจริงได้แบบไม่ได้คิดไปเอง